เวียดนามจะมอบใบอนุญาตโครงการโรงกลั่นและศูนย์ปิโตรเคมีมูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์ ที่จะเป็นการพัฒนาร่วมทุนกันระหว่างบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ของไทย และบริษัทซาอุดิอารัมโก ผู้ผลิตน้ำมันใหญ่ที่สุดของโลก ไม่เกินเดือน ก.พ.2558 เจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามเผยวานนี้ (22)
โครงการนี้จะเป็นหนึ่งในการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ผู้ถือครองแหล่งน้ำมันดิบใหญ่อันดับ 3 ของเอเชีย แต่ยังขาดแคลนโรงกลั่นจนต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมัน และเชื้อเพลิงกว่า 70% รองรับความต้องการของประเทศ
“ปตท.จะตั้งบริษัทร่วมทุนกับอารัมโก ขณะที่ปัญหาในตอนนี้คือ โครงการนี้ยังไม่มีหุ้นส่วนจากเวียดนาม สองบริษัทจะดูแลงบลงทุนฝ่ายละครึ่ง แต่หากมีหุ้นส่วนจากเวียดนามเข้าร่วม พวกเขาจะแบ่งพื้นที่ทุนให้แก่ฝ่ายเวียดนามด้วย” หมั่น หง็อค หลี หัวหน้าเขตเศรษฐกิจเญินเฮย ใน จ.บิงดิ่ง ที่โครงการโรงกลั่นจะถูกพัฒนาขึ้น กล่าว
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดจะมอบใบอนุญาตโดยเร็วที่สุดเมื่อสองบริษัทเสร็จสิ้นขั้นตอนในการตั้งบริษัทร่วมทุนในเวียดนาม ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือน ก.พ. นี้
ปตท. ระบุว่า สองบริษัทจะถือครองสัดส่วนในโครงการฝ่ายละ 40% ขณะที่รัฐบาลเวียดนาม ครองส่วนที่เหลือ ส่วนการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันจะเริ่มขึ้นในปี 2559 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปี 2564
รายงานที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของรัฐบาลเวียดนามเมื่อสัปดาห์ก่อนระบุว่า นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ได้อนุมัติโครงการนี้ซึ่งออกแบบให้กลั่นน้ำมันดิบได้ 20 ล้านตันต่อปี หรือ 400,000 บาร์เรลต่อวัน และขนาดการผลิตของโรงกลั่นอาจเพิ่มเป็น 30 ล้านตันต่อปี ในปี 2564 ขณะที่มูลค่าการลงทุนรวมทั้งหมดอาจขยายเป็น 30,000 ล้านดอลลาร์
เวียดนาม ในเวลานี้มีโรงกลั่นและศูนย์ปิโตรเคมียวุ๋งกว๊าตเพียงแห่งเดียวที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งกลั่นน้ำมันดิบได้ 6.5 ล้านตันต่อปี แต่มีกำหนดที่จะขยายขีดความสามารถเป็น 10 ล้านตันต่อปี ในปี 2564 และเวียดนามยังมีแผนที่จะตั้งโรงกลั่นขึ้นอีก 2 แห่ง ที่แต่ละแห่งกำหนดให้มีขนาดรองรับน้ำมันดิบที่ 10 ล้านตันต่อปี โดยจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตในปี 2560 และ 2563