ผลสำรวจล่าสุดที่มีการเผยแพร่ในเยอรมนีในวันขึ้นปีใหม่ (1 ม.ค.) ระบุชาวเยอรมันราว 1 ใน 8 พร้อมเข้าร่วมเดินขบวนแสดงพลัง “ต่อต้านชาวมุสลิม” ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ในเมืองเบียร์รู้สึกกังวลต่อการไหลบ่าเข้าสู่เยอรมนีของบรรดาผู้อพยพจากโลกมุสลิม
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสำนักวิจัย “ฟอร์ซา” และมีการตีพิมพ์เผยแพร่ในนิตยสาร “สเทิร์น” ของเยอรมนี ระบุว่า ราว 13 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,006 คนในเยอรมนียอมรับว่า ตนเองจะไปเข้าร่วมการเดินขบวนต่อต้านชาวมุสลิมในเยอรมนีโดยไม่รีรอ ขณะที่อีก 29 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างยอมรับว่าพวกตนเชื่อว่าชาวมุสลิมที่อพยพเข้ามาในเยอรมนีกำลังแผ่ขยายอิทธิพลของความเชื่อแบบอิสลาม และเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวกำลังส่งผลกระทบต่อสังคมเยอรมนีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ผลสำรวจยังพบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างยอมรับว่า รู้สึกกังวลต่อการไหลบ่าเข้าสู่เยอรมนีของบรรดาผู้อพยพจากโลกมุสลิมทั้งจากตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชีย โดยระบุว่านอกจากผู้อพยพเหล่านี้จะเข้ามา “แย่งงานทำ” แล้ว ยังอาจทำให้คนเยอรมันที่เป็นเจ้าของประเทศมีความ “ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน” เพิ่มขึ้นด้วย
ในปี 2014 ที่ผ่านมา ยอดผู้อพยพชาวมุสลิมที่เดินทางเข้ามาในเยอรมนีมีจำนวนสูงถึงราว 200,000 คน ซึ่งมากเป็น 4 เท่าของจำนวนผู้อพยพมุสลิมเมื่อปี 2012
ผลสำรวจดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาในจังหวะเวลาเดียวกับที่กลุ่มเคลื่อนไหวที่เรียกตัวเองว่า แนวร่วมผู้รักชาติชาวยุโรปเพื่อต่อต้านอิสลามในโลกตะวันตก (PEGIDA) ทำการจัดเดินขบวนครั้งใหญ่ในหลายเมืองทั่วเยอรมนี เริ่มจากเมืองเดรสเดนทางภาคตะวันออกของประเทศ นับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว โดยมีผู้เข้าร่วมในแต่ละครั้งนับหมื่นคนเพื่อแสดงจุดยืน “ไม่ต้อนรับชาวมุสลิม” ในเยอรมนีและในประเทศต่างๆทั่วยุโรป
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีหญิงอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนีเรียกร้องให้ชาวเยอรมันหันหลังให้กับข้อเรียกร้องของกลุ่ม PEGIDA โดยเธอยืนยันว่าเยอรมนีซึ่งเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปมีความจำเป็นต้อง “อ้าแขนรับ” ผู้อพยพที่หลบหนีภัยสงครามและความขัดแย้งจากประเทศมุสลิมทั่วโลก