สำนักอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซีย ระบุว่า สภาพอากาศน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เที่ยวบิน 8501 ของแอร์เอเชียต้องประสบเหตุร้ายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยคาดว่ามีน้ำแข็งเข้าไปสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์
เครื่องบินแอร์บัส เอ320-200 ลำดังกล่าว ประสบเหตุร้ายระหว่างที่กำลังเดินทางจากสุราบายามุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังค้นหาต้นเหตุที่ทำให้เที่ยวบินนี้ต้องตกลงในทะเล
รายงานเบื้องต้นที่อยู่ในเว็บไซต์ของสำนักอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซีย ได้คาดการณ์ว่า สภาพอากาศในเวลานั้นคือตัวการที่ทำให้เครื่องบินแอร์บัสลำนี้ต้องตกลงในทะเล หลังบินไปเจอพายุ
“จากข้อมูลที่มี เกี่ยวกับบริเวณที่เครื่องบินมีการติดต่อครั้งสุดท้าย สภาพอากาศน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุครั้งนี้” รายงาน ระบุ
“สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ สภาพอากาศในตอนนั้นได้ก่อให้เกิดน้ำแข็งขึ้นในระบบทำความเย็น จนสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ นี่คือหนึ่งในความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้น อ้างอิงจากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอุตุนิยมวิทยาที่มีอยู่” รายงาน ระบุ
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทะเลไม่ค่อยเป็นใจต่อการค้นหาเครื่องบินของแอร์เอเชียลำนี้สักเท่าไหร่ ถึงกระนั้นอินโดนีเซียก็ยังได้รับความช่วยเหลือจากหลายประเทศ อาทิ อเมริกาและรัสเซีย โดยในวันนี้ (4 ม.ค.) ทีมนักประดาน้ำเตรียมตัวที่จะดำลงไปบริเวณจุดที่พบซากเครื่องบิน
“คลื่นลมค่อนข้างสงบในวันนี้ มีความสูงแค่ 1-2 เมตรเท่านั้น เราจะเน้นไปที่การค้นหาใต้น้ำ โดยหวังว่าจะสามารถเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้มากขึ้นอีก เราต้องการจะเก็บกู้ศพเหล่านั้นที่อาจยังติดอยู่ในซากเครื่องบินให้เร็วขึ้นอีก” เอส บี สุปรียาดี เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัย บอกกับเอเอฟพี
เขาบอกด้วยว่า ทีมค้นหาอาจใช้อุปกรณ์โซนาร์ในการค้นหาใต้น้ำ ในขณะที่ซากเครื่องบินของแอร์เอเชียกำลังถูกกัดเซาะอย่างต่อเนื่องอยู่ในทะเล