เจ้าหน้าที่ของออสเตรเลียออกมาเตือนในวันนี้ (4 ม.ค.) ว่าไฟป่าที่เกิดขึ้นทางตอนใต้ของประเทศยังคงเป็นภัยคุกคามต่อหลายชีวิตในละแวกใกล้เคียง แม้ว่าสภาพอากาศจะดีขึ้นก็ตาม โดยเกรงว่าตอนนี้จะมีบ้านเรือนถูกเผาวอดวายไปแล้วกว่า 30 หลัง นับเป็นไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษของรัฐเซาต์ออสเตรเลีย ขณะที่พนักงานดับเพลิงหลายร้อยคนจากรัฐใกล้เคียงถูกระดมกำลังเข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์
สำนักงานดับเพลิงแห่งชาติในรัฐเซาต์ออสเตรเลีย ระบุว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ บริเวณเทือกเขาลอฟท์ตี ทางตะวันออกของแอดิเลด ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องไปทั่วทุกทิศทางในย่านแซมป์สันแฟลต เป็นภัยคุกคามต่อหลายชีวิตในละแวกนั้น
อย่างไรก็ตาม อากาศที่เย็นลงในวันอาทิตย์ (4 ม.ค.) คาดว่าจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น ก่อนที่อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีกครั้งในวันพุธ จากข้อมูลรายงานพยากรณ์อากาศ
“ผมสามารถยืนยันได้ว่ามีบ้าน 12 หลังที่ถูกเผาไปแล้ว และเกรงว่าอาจจะมีอีก 20 หลังที่จะวอดวายไปด้วย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มจะดีขึ้น อุณหภูมิเริ่มเย็นลง เอื้อต่อการควบคุมเพลิง” เจย์ เวเธอริล ผู้ว่าฯ รัฐเซาต์ออสเตรเลีย บอกกับนักข่าว
“นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจากรายงานพยากรณ์อากาศ เราจะต้องเจอกับสภาพอากาศที่แย่ลงในวันพุธ ดังนั้นเราจึงต้องเร่งลดระดับความรุนแรงของไฟในตอนนี้” เขากล่าว
เวเธอริล บอกหลังจากไปเยือนบริเวณจุดที่มีเพลิงไหม้ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ว่าเขาได้เห็นบ้านเรือนวอดวายไปหลายหลัง แถมยังลามไปสู่บ้านเรือนในละแวกนั้นอีกด้วย
“ไฟป่าครั้งนี้คงยังไม่จบง่ายๆ ยังมีงานอีกมากที่เราต้องทำ สถานการณ์ในตอนนี้นับว่าเป็นงานยากและต้องระมัดระวังอันตรายด้วย” เขากล่าว
แอดิเลด ฮิลส์ ที่มีประชากรราว 40,000 คน มีบ้านเรือนสวยงามและเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งผลิตไวน์ บริเวณเทือกเขาลอฟท์ตี ถูกไฟป่าเผาไปแล้ว เป็นพื้นที่กว่า 11,000 เฮคตาร์ (ประมาณ 27,200 เอเคอร์)
เกร็ก เนทเทิลตัน หัวหน้าหน่วยงานดับเพลิง บอกว่า มีการพยากรณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 39 องศาเซลเซียสในวันพุธ แต่คาดว่ากระแสลมจะไม่แรงอย่างที่เคยเป็นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
พนักงานดับเพลิงหลายร้อยคนจากรัฐใกล้เคียงอย่างวิคตอเรียและนิวเซาต์เวลส์ ถูกระดมมาช่วยเจ้าหน้าที่ของรัฐเซาต์ออสเตรเลียควบคุมเพลิงในวันอาทิตย์ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ร่วมกันต่อสู้กับเปลวเพลิงในตอนนี้กว่า 800 คน
อย่างไรก็ตาม มีประมาณ 22 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานดับเพลิง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเปลวไฟ
ASTV