พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 6 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และสุโขทัย รวม 25 อำเภอ พร้อมสั่งการให้แก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย เน้นวางแผนบริหารจัดการน้ำเป็นระบบเชื่อมโยงในทุกระดับ และแจกจ่ายน้ำทั่วถึงครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง
ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานจังหวัดสำรวจปริมาณน้ำ จัดทำบัญชีแหล่งน้ำในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสนับสนุนการสูบน้ำดิบเข้าสู่ระบบประปาหมู่บ้าน และถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้อุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ และบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือภัยแล้ง โดยจัดหาทำความสะอาด ซ่อมแซมภาชนะกักเก็บน้ำให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี สำรองน้ำไว้อุปโภคบริโภค และใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนเกษตรกร ควรวางแผนทำการเกษตรให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำในพื้นที่ โดยงดทำนาปรังในช่วงฤดูแล้ง เลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง
กรมประชาสัมพันธ์