พบเหยื่อ’แอร์เอเชีย’เพิ่มเป็น 39 ศพ

สภาพอากาศยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความคืบหน้าในการค้นหาร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายและซากเครื่องบินในเที่ยวบิน QZ8501ของแอร์เอเชีย โดยในการปฏิบัติการค้นหาวันที่ 10 เมื่อวันอังคาร (6 ม.ค.) พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกเพียง 2 ราย รวมเป็น 39 ศพ แต่ยังไม่พบ “กล่องดำ” ซึ่งสันนิษฐานกันว่าอาจจะจมอยู่ในโคลนก้นทะเล ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ภาคการเงินแดนอิเหนาเผยว่า บริษัทประกันภัยกำลังเตรียมการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตแล้ว โดยคาดว่า จะแจกแจงรายละเอียดได้ภายในสิ้นเดือนนี้

คลื่นลมแรงในทะเลทำให้ทีมค้นหาพบร่างผู้เสียชีวิตไม่ถึง 40 รายนับตั้งแต่ที่เที่ยวบิน 8501 ตกกลางทะเลชวาเมื่อเช้าตรู่วันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 ชีวิต ในเส้นทางจากสุราบายา เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอินโดนีเซีย มุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ ซึ่งปกติแล้วใช้เวลาบินเพียง 2 ชั่วโมง

เช่นเดียวกัน ทีมกู้ภัยยังไม่พบ “กล่องดำ” อันเป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินและบันทึกการสนทนาในห้องนักบิน ซึ่งจะช่วยเฉลยปริศนาสาเหตุเครื่องบินตก ถึงแม้จากการใช้ระบบโซนาร์ค้นหา ได้ตรวจพบชิ้นส่วนขนาดใหญ่ 5 ชิ้นใต้ทะเล ในจำนวนนี้รวมถึงชิ้นที่เชื่อว่าเป็นส่วนหางที่กล่องดำติดตั้งอยู่ก็ตาม

บัมบัง โซลิสต์โย ผู้อำนวยการสำนักงานค้นหาและกู้ภัยของอินโดนีเซีย แถลงในวันอังคาร ว่า จะขยายพื้นที่ค้นหาออกไปเป็น 185 ตารางกิโลเมตร เนื่องจากปัจจัยเรื่องกระแสน้ำที่ไหลแรง ทำให้เห็นกันว่าร่างผู้เสียชีวิตและซากสิ่งของของเครื่องบิน อาจถูกพัดกระจายออกไปเป็นวงกว้างกว่าเดิมแล้ว

ขณะที่ เอส.บี.สุปริยาดี เจ้าหน้าที่ค้นหาผู้หนึ่งเปิดเผยว่า ในช่วงที่อากาศดีขึ้นมาของวันอังคาร ได้มีการส่งนักประดาน้ำลงสู่ไปค้นหาบริเวณใต้ทะเล ทว่ายังคงเผชิญกับอุปสรรคหนักหน่วง

“พวกเขาบางคนพยายามที่จะดำลงใต้ทะเล แต่อากาศที่เลวร้ายเป็นตัวขัดขวางการปฏิบัติงาน” เขาบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีจากเมืองปังกาลัน บุน ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ บนเกาะบอร์เนียว ที่มีสนามบินอยู่ใกล้กับจุดที่เครื่องบินตกมากที่สุด

“จนถึงเวลานี้ นักประดาน้ำยังไม่สามารถเข้าไปใกล้ๆ พวกชิ้นส่วนชิ้นใหญ่ๆ ของเครื่องบินได้เลย” เขากล่าว

สภาพคลื่นลมรุนแรงยังทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำเรือที่ติดตั้งอุปกรณ์จับสัญญาณ Ping จากกล่องดำไปร่วมการสำรวจค้นหาได้ ทั้งนี้ แบตเตอรี่กล่องดำน่าจะยังมีอายุใช้งานได้อีกประมาณ 20 กว่าวัน

เท่าที่ผ่านมา การปฏิบัติการค้นหาให้ความสำคัญกับการค้นร่างผู้เสียชีวิต แต่ศพเกือบทั้งหมดที่พบและกู้ขึ้นมาได้แล้ว เป็นร่างซึ่งลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ บางศพอยู่ในสภาพยังติดอยู่กับเบาะที่นั่ง โดยในวันอังคาร เจ้าหน้าที่ค้นหาได้พบเพิ่มอีก 2 ศพ รวมแล้วเวลานี้พบร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายทั้งสิ้น 39 ศพ

ในเมืองสุราบายา ซึ่งเป็นต้นทางของเที่ยวบินมรณะ เวลานี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์วิกฤตขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ระบุอัตลักษณ์ของศพ ตลอดจนดำเนินการอื่นๆ ที่จำเป็น ก่อนจะส่งมอบให้แก่ญาติใกล้ชิดต่อไป

ขณะที่ยังไม่พบกล่องดำ ทำให้ยังขาดหลักฐานอันสำคัญ แต่ในเบื้องต้นสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซียเชื่อว่า สาเหตุสำคัญของอุบัติภัยคราวนี้เกิดจากสภาพอากาศที่ทำให้อุปกรณ์บางชิ้นของเครื่องบินเย็นจัดจนกลายเป็นน้ำแข็ง ส่งผลให้เครื่องยนต์ขัดข้องรุนแรง

เวลาเดียวกัน กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียกำลังตรวจสอบหลังพบว่า เที่ยวบิน 8501 ที่ตก ไม่ได้รับอนุญาตให้บินในเส้นทางดังกล่าวในวันเกิดเหตุ โดยได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่กระทรวง 2 คน และเจ้าหน้าที่สนามบินสุราบายา 5 คนที่อนุญาตให้เที่ยวบินดังกล่าวขึ้นบิน รวมทั้งกำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่อื่นๆ อีกหลายคน และสายการบินทุกแห่งที่ให้บริการในอินโดนีเซีย เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในด้านความปลอดภัย

สำหรับแอร์เอเชียถูกระงับให้บริการเส้นทางสุราบายา-สิงคโปร์ไม่มีกำหนด เนื่องจากการละเมิดกฎตารางบินดังกล่าว

ในอีกด้านหนึ่ง เฟอร์ดอส ดีเจลานี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารของอินโดนีเซีย แถลงในวันอังคารว่า แม้ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของโศกนาฏกรรมแอร์เอเชีย แต่บริษัทประกันภัยเริ่มประมวลผลการเรียกร้องสินไหมทดแทนแล้ว และหวังว่าจะแจ้งข่าวต่อผู้รับผลประโยชน์ได้ภายในปลายเดือนนี้

ได้เกิดความสับสนคาดเดากันขึ้นมาเกี่ยวกับการจ่ายค่าสินไหมของบริษัทประกันภัย หลังจากที่กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียระบุว่า เที่ยวบินที่ตกนั้นขึ้นบินโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง โดยแอร์เอเชียได้มีสิทธิบินในเส้นทางสุราบายา-สิงคโปร์ เฉพาะวันจันทร์, อังคาร, พฤหัสบดี, และเสาร์ เท่านั้น ขณะที่วันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์

ทว่า ดีเจลานี ยืนยันว่า ถึงอย่างไรกรณีนี้ก็สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ และเสริมว่า ญาติผู้โดยสารแต่ละคนจะได้รับเงินอย่างน้อย 1.25 ล้านรูเปียห์ (98,853 ดอลลาร์) จากพวกบริษัทประกันภัยของแอร์เอเชีย

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น