เจ้าหน้าตำรวจเร่งสืบสวนขยายผลรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะขนย้ายชาวโรฮิงญาที่นครศรีธรรมราช ขณะที่การสืบสวนทางการข่าวพบว่า เป็นฝีมือของขบวนการค้ามนุษย์จากจังหวัดระนอง เปลี่ยนเส้นทางขนเลียบชายฝั่งอ้าวไทย เพื่อหลบหลีกเจ้าหน้าที่ และการรีดส่วย
วันนี้ (11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงนว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่การข่าวความมั่นคงหลายหน่วยงานเข้าสืบสวนผู้ครอบครอง และถือกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ จำนวน 5 คัน ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึด พร้อมกับจับกุมชาวโรฮิงญา จำนวน 98 คน พบว่า เป็นเครือข่ายรับจ้างเคลื่อนย้ายชาวโรฮิงญา ของขบวนการค้ามนุษย์รายใหญ่ที่มีฐานอยู่ในจังหวัดระนอง ที่รู้จักในเครือข่าย “เฮียฮ้อ”
โดยพบว่า ชาวโรฮิงญาเหล่านี้จะถูกส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้ของไทย โดยจะส่งออกไปทางอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ผ่านแนวชายแดนตามป่าสวนยาง และป่าเขาด้วยการเดินเท้า ซึ่งหากไปถึงยังเป้าหมายจะมีค่าหัวสูงถึงรายละ 3-4 หมื่นบาท ชาวมุสลิมโรฮิงญาเหล่านี้จะอยู่ในตลาดแรงงานชั้นล่างเป็นหลัก ส่วนสาเหตุที่มีการหลบเลี่ยงเส้นทางมายังถนนเลียบชายทะเลฝั่งอ่าวไทยนั้น สืบเนื่องจากการหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ และขบวนการรีดส่วย
ขณะที่กลุ่มชาวโรฮิงญาที่ยังพักอยู่ที่ สภ.หัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังมีอาการอ่อนล้าอย่างมากต้องนำส่งโรงพยาบาลเป็นระยะ และมีชาวไทยมุสลิมต่างพาอาหาร ผลไม้ เสื้อผ้า น้ำดื่ม มามอบให้แก่ชาวโรฮิงญาเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อมีการคัดกรองพบว่า มีจำนวนเป็นหญิง 27 คน เด็ก 28 คน ชาย 27 คน ชายรักษาตัวที่โรงพยาบาล 14 คน รวมทั้งหมด 97 คน มีหญิงเสียชีวิตไป 1 คน นอกจากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอหัวไทร เข้าตรวจสอบเบื้องต้นเนื่องจากเกรงว่าอาจเป็นพาหะโรคติดต่อ โดยมีการกันพื้นที่เฉพาะให้ชาวโรฮิงญาทั้งหมดได้พักในระหว่างขั้นตอนของการดำเนินคดี
ASTV