นายอับดุลเลาะห์ อัล-บาดรี เลขาธิการองค์การประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก ( โอเปก ) กล่าวต่อที่ประชุมสภาเศรษฐกิจโลก “เวิลด์ อีคอนอมิก ฟอรั่ม” ( ดับเบิลยูอีเอฟ ) ที่เมืองดาวอส เมื่อวันพุธ ยืนยันเรื่องการรักษาเพดานผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มสมาชิกและการไม่แทรกแซงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอาจกลายเป็นช่องทางสร้างโอกาสในการค้าให้กับประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ไม่ใช่สมาชิกโอเปก
บาดรีกล่าวด้วยว่า ไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกประสบกับภาวะตกต่ำเช่นนี้ ตลอดประสบการณ์กว่า 20 ปีในวงการน้ำมันดิบโลก ตนพบกับสถานการณ์ลักษณะนี้มาแล้ว 3-4 ครั้ง ก่อนราคาจะฟื้นตัวกลับมาเองตามกลไกตลาด พร้อมกับย้ำท่าทีของโอเปกไม่มีความเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับทั้งสหรัฐ รัสเซียและอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้บริหารบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก รวมถึงบีพี โตตาล และโคโนโคฟิลลิปส์ ยังคงยืนยันไปในทางเดียวกันว่า นโยบายของโอเปกในช่วงหลัง มีผลทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกตกต่ำลงตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2557 เหลือเพียงบาร์เรลละราว 50 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1,650 บาท ) หากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแนวทาง โลกมีแนวโน้มประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำมันดิบภายในปี 2573 และผู้ประกอบการต้องทุ่มเงินมากขึ้นเพื่อผลิตน้ำมันให้ได้มากกว่าเดิม ขณะที่ในปัจจุบันหลายบริษัทปรับลดงบประมาณของตัวเองลงราวร้อยละ 10 เนื่องจากปริมาณน้ำมันกำลังล้นตลาด