ศาลชั้นต้นยกฟ้อง 2 อดีตทหารพรานยิงเด็กสามพี่น้องตระกูลมะมัน

สำนักข่าวอิศรารายงานว่าศาลจังหวัดนราธิวาส อ่านคำพิพากษาเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ม.ค.58 ยกฟ้องอดีตทหารพราน 2 นายในคดียิงเด็ก 3 ศพตระกูลมะมัน ที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส

เหตุการณ์คนร้ายบุกยิงเด็กชายสามพี่น้องจนเสียชีวิตอย่างน่าสลดเกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 3 ก.พ.57 ที่บ้านเลขที่ 143/4 หมู่ 7 บ้านปะลุกาแปเราะ ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ โดยเป็นการใช้อาวุธปืนสงครามทั้งเอ็ม 16 อาก้า และปืนพกขนาด 9 มม. สาดกระสุนใส่คนในครอบครัวมะมัน 5 คน ประกอบด้วย นายเจ๊ะมุ มะมัน บิดาของเด็กๆ น.ส.พาดีละห์ แมยู มารดา ด.ช.มูยาเฮด มะมัน อายุ 11 ปี ด.ช.บาฮารี มะมัน อายุ 9 ปี และ ด.ช.อิลยาส มะมัน อายุ 6 ปี คมกระสุนทำให้เด็กๆ สามพี่น้องเสียชีวิต ส่วน น.ส.พาดีละ ซึ่งตั้งท้องได้ 4 เดือนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ นายเจ๊ะมุ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ต่อมาวันที่ 3 มี.ค.57 ตำรวจได้ติดตามจับกุมทหารพราน 2 นาย คือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) มะมิง บินมามะ อายุ 22 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4607 (ร้อย ทพ.4607) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 (ฉก.ทพ.46) และ อส.ทพ.ซากือระ เจ๊ะแซ อายุ 25 ปี สังกัดร้อย ทพ.4609 ฉก.ทพ.46 เช่นกัน โดยเป็นการจับกุมตามหมายจับที่ จ.77 และ 78/2557 ลงวันที่ 1 มี.ค.57

อย่างไรก็ดี คดีนี้ฝ่ายรัฐไม่ถือว่าเป็นคดีความมั่นคง แม้ผู้ก่อเหตุจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดย นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า คดีนี้มีมูลเหตุจากความโกธรแค้นส่วนตัว ไม่ใช่คดีความมั่นคง

ทั้งนี้ เพราะจากการสอบปากคำ อส.ทพ.มะมิง หนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่า สาเหตุที่ร่วมกับพวกลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะเชื่อว่านายเจ๊ะมุเป็นคนยิง นายอับดุลเลาะ บินมามะ พี่ชาย และ นางรอกีเยาะ สระราวอ พี่สะใภ้เสียชีวิตทั้งคู่ในพื้นที่ ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.56 โดยขณะถูกยิงพี่สะใภ้ตั้งท้องได้ 4 เดือนด้วย โดย อส.ทพ.มะมิง เชื่อว่าพี่ชายของเขาถูกนายเจ๊ะมุสังหารเพราะไปเป็นพยานในคดีที่นายเจ๊ะมุตกเป็นผู้ต้องหายิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านใน ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เสียชีวิตก่อนหน้านั้น แต่เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ ทำให้ศาลจังหวัดปัตตานีมีคำพิพากษายกฟ้อง

หลังถูกจับกุม ทหารพรานทั้งสองถูกปลดออกจากราชการ จึงกลายเป็นอดีตทหารพราน และไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว จึงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสตลอดมา กระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ม.ค.58 หรือราว 11 เดือนหลังถูกจับกุม ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้อง โดยเหตุผลที่ศาลยกฟ้อง คือ ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าบุคคลทั้งสองเป็นคนฆ่า มีเพียงคำรับสารภาพของจำเลยเท่านั้น ส่วนภรรยาของผู้เสียหาย คือ น.ส.พาดีละ ก็ไม่สามารถจดจำใบหน้าของผู้ก่อเหตุได้

พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า คดีนี้ยังไม่จบ เป็นเพียงคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ทางอัยการได้ยื่นอุทธรณ์และคัดค้านการประกันตัวจำเลยทั้งสอง

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น