เรือประมงน้ำหนักเกินที่บรรทุกผู้อพยพไปยังมาเลเซียประสบเหตุล่มกลางกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากนอกชายฝั่งบังกลาเทศในวันนี้ (29) และผู้โดยสาร 24 คนยังสุญหายอยู่ ตำรวจระบุ
ตำรวจกล่าวว่า ผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินได้ช่วยชีวิตชาวบังกลาเทศ 32 คนในอ่าวเบงกอล หลังจากเรือลำดังกล่าวเกิดพลิกคว่ำห่างจากชายฝั่งราว 2.5 กิโลเมตร แต่คนอื่นๆ ยังคงสูญหาย
“ราวๆ 20 กว่าคนยังคงสูญหาย ยามชายฝั่งและตำรวจกำลังดำเนินปฏิบัติการช่วยชีวิตอยู่” มาซุด อลาม หัวหน้าตำรวจท้องถิ่น กล่าว
“ผู้โดยสารที่ถูกช่วยขึ้นมาแล้วบอกกับเราว่า เรือลำนี้มีผู้โดยสารมากถึง 60 คน” อลาม บอกกับเอเอฟพี
“ผู้โดยสารทุกคนเป็นชาวบังกลาเทศและพวกเขากำลังมุ่งหน้าสู่มาเลเซียทางเรืออย่างผิดกฎหมาย”
การคาดการณ์ต่างๆ ผันแปรตามจำนวนรวมของผู้โดยสาร โดย โดยสถานีโทรทัศน์เอกชน โซมอย ระบุว่า มีผู้โดยสารอยู่บนเรือลำนี้ 100 คน ขณะมันเกิดล่มใกล้กับเกาะคูทุบเดียของบังกลาเทศ
เรือลำนี้ปะทะเข้ากับกระแสน้ำเชี่ยวกรากหลายระลอก ไม่นานหลังจากที่แล่นออกมาจากเมืองชายฝั่งแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองท่าชิททากองทางภาคใต้ของประเทศ อลาม กล่าว
ชาวบังกลาเทศที่ยากจนและผู้ลี้ภัยชนกลุ่มน้อยโรฮิงญาจากพม่าหลายพันคนพยายามที่จะอพยพไปยังแดนเสือเหลืองทุกๆ ปีผ่านการเดินทางเป็นระยะทาง 3,200 กิโลเมตรที่เต็มด้วยอันตรายและบางครั้งก็ถึงชีวิต
บรรดากลุ่มสิทธิฯ ระบุว่า ตลอดเส้นทางนี้มีผู้เสียชีวิตหลายพันราย ขณะที่อีกหลายพันคนตกไปอยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์
กองกำลังยามฝั่งและรักษาพรมแดนของบังกลาเทศเปิดฉากปราบปราบผู้อพยพแสวงหารายได้ , ยึดเรือของพวกเขาและจับกุมกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์หลายคน แต่กลับหาได้มีผละกระทบที่เห็นชัดเจน
ผู้อพยพเหล่านี้ผิดกฎหมายเพราะว่าพวกเขาไม่ได้เดินทางด้วยหนังสือเดินทางที่ถูกต้อง และพยายามที่จะเข้ามาเลเซียโดยที่ยังไม่แจ้งทางการ
อุบัติเหตุเรือเฟอร์รีและเรือประเภทอื่นๆเป็นเรื่องปกติในบังกลาเทศ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ร้อยละ 95 ของเรือขนาดเล็กและขนาดกลางหลายแสนลำในบังกลาเทศไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยขั้นต่ำสุดด้วยซ้ำ