สาธารณสุขอำเภอเบตง รณรงค์ฉีดวัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก

นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้จัดโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบให้ประชาชนกลุ่มอายุ 20-50 ปี ทั่วประเทศทุกอาชีพ ซึ่งมีประมาณ 28 ล้านคน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ ดำเนินการตั้งแต่ มกราคม-เมษายน 2558 ประชาชนสามารถรับบริการที่สถานบริการสาธารณสุข และที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งที่ใกล้บ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งวัคซีนที่ฉีดครั้งนี้เป็นวัคซีนรวม 2 ชนิด คือ ป้องกันโรคคอตีบและโรคบาดทะยัก โดยฉีดเพียง 1 เข็ม จะมีภูมิต้านทาน 2 โรคนี้ ผู้ใหญ่ให้ฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันทุก 10 ปี ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์พึ่งคลอดลูก และผู้ที่รับวัคซีนมาแล้วและฉีดครบ 3 ครั้งไม่ต้องฉีด เพราะป้องกันได้ 10 ปี
สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวอีกว่า โรคคอตีบ (Diphtheria) เป็นการติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ เป็นโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายทำให้มีไข้ เกิดการอักเสบ และมีแผ่นเยื่อสีขาวปนเทาในลำคอ ติดแน่นที่บริเวณต่อมทอนซิล ช่องคอ หรือ ที่โพรงจมูก กล่องเสียง ในรายที่รุนแรง จะทำให้ทางเดินหายใจตีบตัน ในผู้ใหญ่เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และอาจทำให้เสียชีวิตได้ อัตราป่วยตายร้อยละ 10-20 โรคนี้เป็นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ พบว่า ปี 2555 มีการระบาดทางภาคอีสาน พบทั้งเด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและผู้ใหญ่ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน จากการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันต่อโรคคอตีบในประชากรกลุ่มอายุต่างๆ พบว่าประชาชนกลุ่มอายุ 20-50 ปี มีภูมิคุ้มกันต่อโรคดังกล่าวต่ำกว่าวัยอื่นๆ คือ มีเพียงร้อยละ 10-20 เท่านั้น จึงมีความเสี่ยงติดเชื้อได้สูง

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น