ไนเจอร์ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดนติดไนจีเรีย หลังถูกกลุ่ม “โบโกฮารัม” บุกโจมตี

รัฐบาลไนเจอร์ประกาศภาวะฉุกเฉินในวันอังคาร (10 ก.พ.) ในเขต “ดิฟฟา” ซึ่งอยู่ติดพรมแดนไนจีเรีย หลังพื้นที่ดังกล่าวตกเป็นเป้าการโจมตีจากกลุ่ม “โบโกฮารัม” ในเวลานี้

การประกาศภาวะฉุกเฉินของทางการไนเจอร์ที่เขตดังกล่าวเป็นเวลา 15 วัน มีขึ้นหลังจากที่รัฐมนตรีกลาโหมออกมายกระดับเตือนภัยต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ หลังเกิดการก่อเหตุโจมตีของกลุ่มโบโกฮารัมที่ข้ามชายแดนเข้ามาจากไนจีเรีย จนประชาชนในพื้นที่หวาดกลัวและหนีตายออกนอกพื้นที่เป็นจำนวนมากนับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

แม้กลุ่มโบโก ฮารัมจะเปิดฉากก่อการโจมตีมานานกว่า 6 ปี แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดการโจมตีในเขตแดนของไนเจอร์ โดยการโจมตีระลอกล่าสุดที่เกิดขึ้นในวันจันทร์ (9 ก.พ.) โดยฝีมือมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงรายหนึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนและบาดเจ็บอีกหลายราย

ก่อนหน้านี้รัฐสภาไนเจอร์ลงมติเอกฉันท์ 102 ต่อ 0 เสียงในวันจันทร์ (9 ก.พ.) เห็นชอบให้มีการส่งกำลังทหารไนเจอร์เข้าไปช่วยชาติเพื่อนบ้านอย่างไนจีเรีย ในการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธโบโก ฮารัม

มูฮัมหมัด บิน อุมัร แกนนำสมาชิกรัฐสภาไนเจอร์ออกมาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวโดยระบุว่า หลังมติดังกล่าวผ่านความเห็นชอบ ทางกองทัพไนเจอร์ก็จะคัดเลือกกำลังพลที่มีความเหมาะสมชุดแรกจำนวน 750 นาย เพื่อเดินทางไปยังไนจีเรียทันที

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไนจีเรียและชาติเพื่อนบ้านทั้งไนเจอร์ ชาด เบนิน และแคเมอรูน ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการส่งกองกำลังผสมทหาร-ตำรวจจำนวน 8,700 นายเข้าไปกวาดล้างกลุ่มนักรบโบโกฮารัมในไนจีเรีย หลังเห็นพ้องกันว่า กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์สุดโต่งดังกล่าวกำลังเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค

ทั้งนี้ เหตุรุนแรงที่ก่อโดยกลุ่มโบโกฮารัมในพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 13,000 คนนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น