บริษัทโอลิมปัส คอร์ป ผลิตเครื่องมือการแพทย์ชื่อดังของสหรัฐฯถูกผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย UCLAฟ้อง หลังจากพบว่า ได้รับการติดเชื้อ “ซุปเปอร์บัก” แบคทีเรียมรณะที่มีความสามารถในการกลายพันธุ์เพื่อทนต่อยาปฎิชีวนะ(carbapenem-resistant enterobacteriaceae) หรือ CRE ได้ระบาดในการเข้ารับการรักษาส่องกล้องเพื่อตรวจตับอ่อน และติดเชื้อจากเครื่องมือการแพทย์ของบริษัท และพบว่าซุปเปอร์บักได้คร่าชีวิตผู้ป่วยไป 2 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 7 คน ซึ่งล่าสุดมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 3 คนในรัฐนอร์ท แคโรไลนา
อินเตอร์เนชันแนลบิสซิเนสไทม์ส รายงานเมื่อวานนี้(22)ว่า มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโรคระบาด “ซุปเปอร์บัก” (carbapenem-resistant enterobacteriaceae) หรือ CREได้ที่มีความสามารถในการกลายพันธุ์เพื่อทนต่อยาปฎิชีวนะ เพิ่มขึ้น 3 คนในชาลอต รัฐนอร์ท แคโรไลนา สื่อโทรทัศน์ท้องถิ่น WSOC-TV รายงานในวันเสาร์(21) โดยCarolinas HealthCare Systemองค์กรเครือข่ายโรงพยาบาลในรัฐนอร์ท แคโรไลนาได้ออกแถลงการณ์ยืนยันถึงรายงานการติดเชื้อทั้ง 3 ราย โดยกล่าวว่า มีผู้ติดเชื้อ 2 รายติดเชื้อจากภายนอกโรงพยาบาล ในขณะที่ผู้ติดเชื้อรายที่ 3 ได้รับเชื้อซุปเปอร์บักจากโรงพยาบาลลินคอล์น ซึ่ง WSOC-TV รายงานเพิ่มเติมว่า ทางรัฐนอร์ท แคโรไลนา ได้ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด รวมไปถึง การหาสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในรัฐ รวมไปถึงมีมาตรการกำหนดให้มีการฆ่าเชื้อในกระบวนการและวิธีการเพิ่มเติมไปกว่ามาตรฐานความปลอดภัยทางอุตสาหกรรมที่กำหนดไว้แต่เดิม และยังเฝ้าระวังผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง
และทางรัฐนอร์ท แคโรไลนายังระบุในแถลงการณ์ที่จะคัดแยกผู้ติดเชื้อซุปเปอร์บักไปอยู่ในหน่วยกักกันพิเศษ รวมถึงกำหนดให้ใช้เครื่องมือทางการแพทย์โดยเฉพาะกับผู้ป่วยคนนั้นๆ รวมไปถึงพยายามทำให้ห้องพักผู้ป่วยปลอดเชื้อทุกวัน และจัดหาเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยตามความเหมาะสม
ซึ่งเจ้าหน้าที่การแพทย์อธิบายเพิ่มเติมว่า แบคทีเรียซูปเปอร์บักสามารถระบาดได้ทางแผลติดเชื้อ หรืออุจจาระ ซึ่งพบมากเป็นปกติภายในสถานให้บริการสาธารณสุขทั่วไป
โดยก่อนหน้านี้ในวันเสาร์(21) NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ผู้ป่วยวัย 18 ปีที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย UCLA วัย 18 ปี ติดเชื้อแบคทีเรียซุปเปอร์บัก หลังจากการได้รับการส่องกล้องเพื่อตรวจตับอ่อน ซึ่งกล้องส่องนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ของบ.โอลิมปัส คอร์ป โดยผู้ป่วยรายนี้มีความต้องการที่จะฟ้องบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์แห่งนี้ ทนายความประจำตัวของผู้ป่วยวัย 18 ปีแถลงในวันศุกร์(20)
สื่อสหรัฐฯรายงานว่า เครื่องมือกล้องส่องกระเพาะของบ.โอลิมปัสที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย “ซุปเปอร์บัก” นั้นถูกใช้เกือบ 200 ครั้งในการรักษาผู้ป่วยที่โรงพยาบาลโรนัลด์ เรแกน UCLA เมดิคอล เซนเตอร์ ในช่วงระหว่างตุลาคม – มกราคม ล่าสุด โดยทางโรงพยาบาล UCLA ได้เตือนให้ผู้ป่วยจำนวน 179 ถึงโอกาสที่พวกเขาจะได้รับการติดเชื้อซูปเปอร์บักนี้
“เรามีแผนที่จะฟ้องร้องบ.โอลิมบัส คอร์ป และในขณะนี้ทางเรากำลังตรวจสอบถึงความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในส่วนความรับผิดชอบของโรงพยาบาล UCLA” เควิน บอยล์ (Kevin Boyle) ทนายความคนไข้อายุ 18 เปิดเผยกับ NBC News และเสริมต่อว่า “เป็นสื่งที่น่ากลัวมาก เพราะมีผู้คนที่มีโอกาสสัมผัสต่อแบคทีเรียมรณะสายพันธุ์เอเลียนนี้ทั้งใน UCLA และทั่วประเทศ ซึ่งหากการแพร่ระบาดสามารถเกิดขึ้นได้กับศูนย์การแพทย์ชั้นนำของโลกเช่น โรงพยาบาลโรนัลด์ เรแกน UCLA เมดิคอล เซนเตอร์ ได้ ก็ไม่เป็นการยากที่จะเกิดขึ้นที่ใดก็ได้”
นอกจากนี้ทางสื่อสหรัฐฯพยายามติดต่อบ.โอลิมปัส คอร์ป เพื่อขอความเห็นแต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยก่อนหน้านี้ ทางบริษัทได้ออกแถลงการณ์ว่า ทางโอลิมปัส คอร์ป ตระหนักถึงความสำคัญของการทำให้เครื่องมือการแพทย์ปลอดเชื้อ และทางบริษัทได้จัดหาเครื่องมือการแพทย์สำหรับการส่องกล้องกระเพาะอาหารใหม่ให้กับทางเจ้าหน้าที่การแพทย์ และทางบริษัทยังได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯในการตรวจหารูรั่วที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคขึ้น เอพีรายงาน
และพบว่า ทางโรงพยาบาล UCLA ไม่ตอบข้อซักถามในเรื่องนี้เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสอบสวน
NBC News รายงานต่อว่า ผู้ป่วยวัย 18ปี ที่กลับเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล UCLA อีกครั้งในเดือนมกราคมล่าสุด พบว่าแต่เดิมติดเชื้อ CRE ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 ทนายความประจำตัวคนไข้วัย 18ปี ให้ความเห็น ซึ่งเจ้าหน้าที่การแพทย์โรงพยาบาลแห่งนี้ได้ใช้เครื่องมือแพทย์ของบ.โอลิมปัส คอร์ป ในการทำการส่องกล้องเพื่อตรวจดูตับอ่อนของคนไข้วัย 18 ปี ซึ่งป่วยจากความผิดปกติโรคตับอ่อนอักเสบ และไม่เป็นที่ยืนยันว่า คนไข้รายนี้เป็นรายแรกที่ติดเชื้อแบคทีเรียซุปเปอร์บักหรือไม่ บอยล์กล่าว และเขายังปฎิเสธที่จะเปิดเผยชื่อคนไข้วัย 18 ปีผู้นี้ เพียงแต่กล่าวว่า เป็นคนไข้ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมปลาย
ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อCDC สหรัฐ รายงานว่า แบคทีเรีย “ซุปเปอร์บัก” ที่มีความสามารถในการทนทานต่อยาปฎิชีวนะสามารถคร่าชีวิตผู้ป่วยได้ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งผู้อำนวยการ CDC ทอม เบรเดน ขนานนามแบคทีเรียนี้ว่า “แบคทีเรียมรณะ”
ทั้งนี้บอยล์เปิดเผยถึงอาการของผู้ป่วยวัย 18ปีว่า “หลังจากที่หนุ่มน้อยคนนี้กลับถึงบ้านหลังจากได้รับการส่องกล้อง เขารู้สึกไม่สบายอย่างหนักในอีก 2-3 วันถัดมา และต้องกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และทำให้ทางโรงพยาบาลได้ตรวจเขาอย่างละเอียด และในที่สุดในเดือนพฤศจิกายน ทางโรงพยาบาลพบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อ CRE และต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนานถึง 83 วัน ที่เกือบทั้งหมดของช่วงเวลานั้นอยู่ในห้อง ICU และในที่สุดได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ทว่าช่างโชคร้ายที่หนุ่มน้อยต้องกลับไปยังโรงพยาบาลแห่งนี้อีกครั้งในเดือนมกราคมล่าสุด ซึ่งพบว่า แบคทีเรียCRE ที่ได้รับการขนานนาม “ซุปเปอร์บัก” ร้ายกาจสมชื่อ เพราะได้ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยวัย 18 ปี และทำให้หนุ่มน้อยต้องทนทรมานอย่างหนัก และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพราะเป็นแบคทีเรียที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ไม่สามารถใช้ยาปฎิชีวนะรักษาได้”
ซึ่งพบว่าในแต่ละปี มีการใช้อุปกรณ์ส่องกล้องในตัวคนไข้มากกว่า 500,000 คนในอเมริกา โดยก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี(19) ทางองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ FDAได้ออกคำเตือนถึงประเภทของอุปกรณ์ส่องกล้องที่เกี่ยวเนื่องกับการระบาดของแบคทีเรีย “ซูปเปอร์บัก” ในโรงพยาบาล UCLA โดยFDA ชี้ว่าอุปกรณ์ประเภทนี้ที่ใช้ภายในร่างกายของผู้ป่วยนั้น “ยากที่จะทำความสะอาด และเป็นปัญหาที่อุปกรณ์ประเภทนี้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้งในแต่ละวันโดยการทำความสะอาด”