เกิดเหตุปะทะในมัลดีฟส์เมื่อวันศุกร์(27ก.พ.) หลังประชาชนหลายพันคนรวมตัวประท้วงคัดค้านการจับกุมอดีตประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด นาชีดและเรียกร้องอัลดุลลา ยามีน ผู้นำคนปัจจุบันลาออก
ความตึงเครียดแผ่ลามขึ้นบนหมู่เกาะโซนร้อนทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย นับตั้งแต่นายนาชีดถูกจับกุมเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และถูกตั้งข้อหาก่อการร้ายในคดีซึ่งมีต้นตอมาจากการจับกุมนายอับดุลลา โมฮาเหม็ด ประธานศาลอาญาที่มีคำสั่งปล่อยตัวนักการเมืองฝ่ายค้านที่ถูกควบคุมตัวในปี 2012 ช่วงที่นายนาชีดยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
นายนาชีด ซึ่งถูกตำรวจลากตัวเข้ารับฟังการไต่สวนที่ศาลในกรุงมาเล ประเทศมัลดีฟส์เมื่อวันจันทร์(23ก.พ.) อ้างว่าเขาโดนปืนจี้ให้ลาออกจากตำแหน่ง หลังเกิดข้อพิพาทกับศาลในปี 2012 ขณะที่พันธมิตรของอดีตประธานาธิบดีรายนี้ก็อ้างว่าเขาถูกรัฐประหาร
เหล่าผู้สนับสนุนพรรคเอ็มดีพีและพรรคจัมฮูรี ซึ่งแยกตัวออกมาจากรัฐบาลผสมของประธานาธิบดียามีน ล่องเรือมาจากเกาะต่างๆของประเทศที่มีอยู่ 1,190 เกาะ หลังจากมีเสียงเรียกร้องนัดชุมนมในเมืองหลวง
ผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์คาดหมายว่าฝูงชนที่เข้าร่วมชุมนุมน่าจะมีจำนวนราว 8,000 ถึง 10,000 คน ขณะที่ประชากรทั้งหมดของประเทศมีไม่ถึง 400,000 คน
เหล่าผู้ประท้วงโบกธงชาติลายเขียวแดงและตะโกนคำขวัญต่างๆ ในนั้นรวมถึง “จงยืนหยัดเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญ” ขณะที่ผู้ชุมนุมคนนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า “รัฐบาลปัจจุบันไม่มีความชอบธรรม”
โฆษกพรรคของนายนาชีด บอกว่าพวกอันธพาลที่กวัดแกว่งมีดดาบและไม้ตะบอง ยกพวกเข้าเล่นผู้ชุมนุมท่ามกลางสายตาของตำรวจ ทั้งนี้นอกจากไม่เข้าห้ามปรามแล้ว ต่อมาตำรวจยังได้รับกุมผู้ประท้วงไปอย่างน้อย 33 คน พร้อมประณามว่าเป็นอีกครั้งที่ระบอบของนายยามีน แสดงให้เห็นถึงความเป็นวายร้าย
อย่างไรก็ตามนายโมฮาเมด ฮูสเซน รัฐมนตรีในรัฐบาลของนายยามีน อ้างว่าตำรวจพบว่าผู้ประท้วงมีทั้งท่อนเหล็ก หมวกกันน็อคและมีด “ดูแล้วมีคนไม่มากนัก อย่างดีที่สุดก็แค่ราวๆ 2,000 คน” เขาบอกกับรอยเตอร์
แหล่งข่าวฝ่ายค้านบอกกับรอยเตอร์ว่าผู้ประท้วงตั้งใจออกมาแสดงพลังก่อนหน้าการประชุมรัฐสภาในวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งพันธมิตรต่อต้านนายยามีน พยายามพยายามเริ่มต้นกระบวนการที่จะนำไปสู่การถอดถอนประธานาธิบดีรายนี้
หลังผลการเลือกตั้งรอบแรกเป็นโมฆะ และจากนั้นมีการยกเลิกการเลือกตั้ง 2 ครั้ง ในที่สุด ยามีน วัย 55 ปี ก็คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 โดยเฉือนนายนาฮีดหวุดหวิด ขณะที่นายนาฮีดก็ยอมรับความพ่ายแพ้
“รัฐธรรมนูญแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตยตกอยู่ในมือผิดคน” โฆษกพรรคเอ็มดีพีอีกคนบอก พร้อมกล่าวหาประธานาธิบดียามีน กำลังนำพาประเทศไปสู่ยุคมืด “ประชาชนของประเทศจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น เราจะปกป้องรัฐธรรมนูญ”