ซาอุฯ จับมือเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงสร้าง “เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์”

รัฐบาลซาอุดีอาระเบียและเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ เปิดทางบริษัทจากเกาหลีสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ให้ดินแดนซาอุดิอาระเบีย

รายงานซึ่งอ้างสำนักข่าวเอสพีเอของทางการซาอุดีอาระเบียระบุว่า กษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุฯ และประธานาธิบดีหญิงพัค กึน-ฮเยแห่งเกาหลีใต้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือทางนิวเคลียร์ที่กรุงริยาดห์ ซึ่งเปิดทางให้บริษัทเอกชนของเกาหลีใต้เดินหน้าสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดกลางจำนวนอย่างน้อย 2 ชุดให้กับซาอุดีอาระเบีย

รายงานข่าวระบุว่า ข้อตกลงประวัติศาสตร์ครั้งนี้มีมูลค่าของโครงการสูงถึงเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์ และถือเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของซาอุดีอาระเบียที่ต้องการสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศขนาด 17 กิกะวัตต์ภายในปี ค.ศ. 2032

ด้านโฆษกรัฐบาลซาอุฯออกคำแถลงยืนยันว่า โครงการนิวเคลียร์ของตนเป็นไปโดยสันติ และมีจุดมุ่งหมายเดียวคือเพื่อพัฒนาแหล่งพลังงานของประเทศให้มีความหลากหลายและลดพึ่งพาทรัพยากร “น้ำมัน”

ขณะที่กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ออกคำแถลงยืนยันเช่นกันว่า เกาหลีใต้และซาอุดีอาระเบียยึดมั่นในหลักการของประชาคมระหว่างประเทศในการต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ และย้ำว่าการพัฒนานิวเคลียร์ระหว่างเกาหลีใต้และซาอุฯ จะเป็นไปในเชิงสันติ

นอกจากข้อตกลงด้านนิวเคลียร์แล้ว การเดินทางเยือนครั้งนี้เกาหลีใต้ยังได้นำคณะนักธุรกิจประมาณ 300 คนร่วมเดินทางมาเพื่อเจรจาความร่วมมือทางการค้ากับนักธุรกิจซาอุดิอาระเบียเพิ่มขึ้นด้วย โดยมีการลงนามในสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจอย่างน้อย 12 สัญญา ซึ่งรวมไปถึงความร่วมมือในโครงการกลั่นน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืดเพื่อการบริโภค และการผลิตรถยนของซาอุดิอาระเบีย

โดย POSCO Engineering and Construction ซึ่งเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมเหล็กรายใหญ่ของเกาหลีใต้ได้มีการลงนามใน MOU ร่วมกับกองทุน Saudi Arabia’s Public Investment Fund เพื่อพัฒนาโครงการผลิตรถยนต์แห่งชาติซาอุดิอาระเบียมูลค่าการลงทุน 4.8 พันล้านริยาด และคาดหมายว่า บริษัทเหล็กรายใหญ่ของเกาหลีใต้อาจเสนอขายหุ้น 40% ให้กับนักลงทุนซาอุฯเพื่อเสริมสภาพคล้องของบริษัทด้วย

ทั้งนี้เกาหลีใต้ถือเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 4 ของซาอุดิอาระเบียมีปริมาณการค้าระหว่างกันในปีที่ผ่านมาเกิน 170 พันล้านริยาด โดยเกาหลีใต้เป็นฝ่ายได้ดุลการค้าที่มูลค่า 133 พันล้านริยาด นอกจากนี้ยังมีการร่วมลงทุนระหว่างสองประเทศมูลค่า 3.4 พันล้านริยาด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรม และภาคบริการ

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น