องค์นิรโทษกรรมสากล หรือ AI เปิดเผยว่า พบหลักฐานว่ารัฐบาลซีเรียของนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรียใช้ระเบิดคลอรีน ซึ่งเป็นสารเคมีร้ายแรง โจมตีเมืองรักกา ที่เปรียบเสมือนเมืองหลวงของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือกลุ่ม IS ทำให้มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 115 ราย จำนวนนี้เป็นเด็ก 14 ราย อีกทั้งยังโจมตีมัสยิด ตลาด และศูนย์กลางการคมนาคม ในช่วงปลายปี 2014 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม AI กลับไม่ได้รับรายงานว่า การโจมตีดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่ฐานที่มั่นของกลุ่ม IS แต่อย่างใด
คำกล่าวอ้างนี้สอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ขององค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของซีเรีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลซีเรียกำลังก่ออาชญากรรมสงครามรอบใหม่ ทำให้มีการเรียกร้องไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศหรือ ICC ให้พิจารณากรณีอาชญากรรมสงครามในซีเรียเป็นการด่วน
ตั้งแต่เกิดสงครามซีเรียเมื่อ 4 ปีก่อน รัฐบาลซีเรียใช้มาตรการปราบปราบกลุ่มติดอาวุธที่รุนแรง และมีการใช้ระเบิดคลอรีน ซึ่งสารเคมีร้ายแรงที่ถูกแบนไปตั้งแต่ปี 1997 ตามอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี ทำให้สหประชาชาติลงมติเมื่อปี 2013 ให้มีการทำลายคลังอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียทิ้ง
หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนยังย้ำอีกด้วยว่า การปราบปรามกลุ่ม IS ไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างในการสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์ได้ และการการใช้ระเบิดคลอรีนยังทำให้พลเรือน รวมถึงเด็กเล็ก ต้องทุกข์ทรมานอย่างมากก่อนเสียชีวิตด้วย
นี่แหละอาวุธที่สร้างขึ้นเองมันน่ากลัว