บริษัทคอสต้า โกรเทเรีย ผู้ให้บริการเรือสำราญท่องเที่ยวของอิตาลี ประกาศยกเลิกจอดแวะพักเรือที่ท่าเรือของตูนิเซีย หลังนักท่องเที่ยวบนเรือสำราญฟาสซิโนซา ของบริษัทคอสต้าเสียชีวิตจากเหตุโจมตีพิพิธภัณฑ์บาร์โบเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้โดยสารของเรือเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 8 ราย
เรือสำราญฟาสซิโนซาได้เดินทางออกจากท่าเรือในตูนิเซียเมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี มุ่งหน้าไปเมืองปัลมา ดิ มาจอร์กา โดยบริษัทคอสต้าแถลงว่า ความปลอดภัยของแขกผู้โดยสารถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ระหว่างใช้เวลาในช่วงวันหยุดพักผ่อน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศอิตาลียืนยันว่า มีชาวอิตาเลียนเสียชีวิตจากเหตุโจมตีดังกล่าว 2 คน บาดเจ็บหลายราย และอีก 2 รายยังไม่พบตัว ขณะที่บริษัทเอ็มเอสซี สเปลนดิดา ผู้ให้บริการเรือสำราญนำเที่ยวของสเปนที่มีผู้โดยสารของเรืออยู่ในเมืองที่เกิดเหตุได้ประกาศยกเลิกจอดแวะพักที่ตูนิเซียแล้วเช่นกัน จนกว่าจะประกาศให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้กลุ่มหัวรุนแรงไอเอสได้ออกมาประกาศความรับผิดชอบว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีพิพิธภัณฑ์ โดยทางกลุ่มได้เผยแพร่คลิปเสียงยกย่องผู้ก่อเหตุ 2 ราย ว่าเป็นนักรบของกลุ่มไอเอส ซึ่งใช้ปืนกลและระเบิดเป็นอาวุธก่อเหตุ
โดยกลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุทั้ง 2 คนซึ่งถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยิงเสียชีวิต ได้แก่ฮาเตม อัล-คัชนาวี กับ ยัสซิน อัล-อาบีดี โดยเฉพาะนายอาบิดี ที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น 2 ฉบับรายงานว่าเคยไปใช้ชีวิตในอิรักและลิเบีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยืนยันข้อมูลนี้
ฮาบิบ เอสซิด นายกรัฐมนตรีของตูนิเซีย บอกว่านายอาบีดี เป็นผู้ที่ถูกทางการเฝ้าติดตามพฤติการณ์อยู่ ทว่าไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษมากมาย “เราระบุตัวพวกเขาได้แล้ว และพวกเขาเป็นพวกก่อการร้ายโดยแน่แท้” เขาบอกกับสถานีวิทยุฝรั่งเศสแห่งหนึ่งในวันพฤหัสบดี(19มี.ค.) แต่ยอมรับว่า “ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาเชื่อมโยงกับกลุ่มใด”
ขณะเดียวกัน ทำเนียบประธานาธิบดีออกคำแถลงระบุว่า นอกจากคนร้าย 2 คนที่ถูกยิงตายแล้ว กองกำลังความมั่นคงยังสามารถจับกุมบุคคล 4 คนซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติการก่อการร้ายคราวนี้ และรวบตัวบุคคลอีก 5 คนซึ่งต้องสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับกลุ่มคนร้ายนี้
ส่วนแหล่งข่าวด้านความมั่นคงบอกกับรอยเตอร์ว่าสมาชิก 2 ครอบครัวของหนึ่งในมือปืนอยู่ในกลุ่มบุคคลที่ถูกควบคุมตัว “เราจับกุมพ่อและแม่ของสมาชิกก่อการร้ายฮาเตม อัล-คัชนาวี ที่บ้านของพวกเขา”
ทำเนียบประธานาธิบดีแถลงว่าจะจัดกำลังทหารไปประจำรักษาการณ์ตามท้องถนนสายต่างๆในส่วนหนึ่งในการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยหลังเกิดเหตุโจมตี “หลังจากประชุมกับกองทัพ ท่านประธานาธิบดีตัดสินใจว่าเมืองใหญ่ๆควรได้รับการคุ้มครองจากทหาร”
ส่วนพิพิธภัณฑ์บาร์โดจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติอีกครั้งในต้นสัปดาห์หน้า ในวันจันทร์หรือไม่อย่างช้าสุดก็วันอังคาร