กองกำลังรัฐบาลอิรักและพันธมิตรชีอะห์ ที่คึกคักขึ้นมาทันตาเห็นในวันพฤหัสบดี(26มี.ค.) หลังได้รับการสนับสนุนจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ เดินหน้าเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการขับไล่นักรบไอเอส ออกจากเมืองติกริต บ้านเกิดของอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน
สหรัฐไม่ได้เข้าร่วมปฎิบัติการดังกล่าวอย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก เนื่องจากปฎิบัติดังกล่าวของทหารอิรัก ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังอาสาชีอะห์ ที่มีนายพลจากกองกำลังพิทักษ์การปฎิวัติอิหร่านเป็นผู้บัชญาการรบ แต่ดูเหมือนว่าเพนตากอน หวังที่จะอ้างสิทธิ์ตนเองในฐานะคู่หูบัญชาการของแบกแดดในการทำสงครามกับกลุ่มไอเอส
ปฏิบัติการยึดคืนเมืองติกริต ซึ่งมีตำรวจ และทหารอิรักมากกว่า 20,000 นาย รวมถึงกองกำลังติดอาวุธชีอะห์ที่รู้จักกันในนามฮาชิด ชาบี ภายใต้การสนับสนุนของอิหร่าน ได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม โดยพวกเขาประสบความสำเร็จในการยืดคืนเมืองต่างๆ ที่มุ่งสู่ติกริตและล้อมกรอบนักรบไอเอสหลายร้อยคนในเมือง แต่การยึดคืนติกริตนั้น ดำเนินการยากลำบากกว่า เพราะว่าไอเอสวางแผนรับมือด้วยการวางระเบิดจำนวนมากไว้บนท้องถนนและตามอาคารต่างๆ
ก่อนหน้านี้รัฐบาลอิรักได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศด้วยตนเอง แต่ไม่พอเพียงและไม่แม่นยำมากพอที่จะทำลายแรงต้านของพวกไอเอส ทว่า “ตอนนี้ปฏิบัติการยึดคืนเมืองติกริตได้เริ่มขึ้นอย่างแท้จริงแล้ว” เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพี
รัฐมนตรีกลาโหมอิรักบอกว่าเครื่องบินรบซูคอยของแบกแดดก็ร่วมโจมตีติกริตเช่นกันในวันพฤหัสบดี(26มี.ค.) ขณะที่โฆษกในปารีสแถลงว่ากองทัพอากาศฝรั่งเศสได้เข้าร่วมภารกิจโจมตีทางอากาศครั้งนี้ที่เริ่มมาตั้งแต่วันพุธ(25มี.ค.) ด้วย “การโจมตีทางอากาศของอิรักและพันธมิตรนานาชาติกำลังสร้างสภาวะเงื่อนไขแก่ปฏิบัติการจู่โจมที่กำลังดำเนินการโดยกองกำลังอิรักรอบๆเมืองติกริตในเวลานี้” พลโทเทอร์รีกล่าว
กองทัพสหรัฐฯเผบว่าการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรนานาชาติชุดแรกเมื่อวันพุธ(25มี.ค.) ดำเนินการต่อเนื่อง 17 เที่ยว ถล่มเป้าหมายอาคาร สะพาน จุดตรวจ พื้นที่ปฏิบัติการต่างๆและกองบัญชาการแห่งหนึ่งของไอเอส