จุฬาราชมนตรี แสดงความเป็นห่วงการแก้ปัญหาภาคใต้ ระบุชาวบ้านไม่แน่ใจว่าได้รับความยุติธรรม เผยยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากทางการชุดปัจจุบันเพื่อพูดคุยแก้ปัญหาร่วมกัน และยังไม่เห็นว่ามีอะไรคืบหน้าเป็นพิเศษ ด้านชาวบ้านยืนยันผู้เสียชีวิจากปฏิบัติการที่ทุ่งยางแดงเมื่อวันพุธไม่ใช่ผู้ก่อความไม่สงบ
บีบีซีไทยรายงานเมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีสำคัญของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้( ศชต.) ร่วมกับกองกำลังทหารพราน 41 เข้าปิดล้อมบ้านที่กำลังก่อสร้างไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ ม.6 บ.โต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่วิสามัญผู้ถูกระบุว่าเป็นคนร้ายเสียชีวิตไป 4 ราย และสามารถควบคุมตัวอีก 22 รายเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา
นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี บอกกับบีบีซีไทยว่า หากเจ้าหน้าที่ยังคงใช้ความรุนแรง การจัดการปัญหาภาคใต้ก็คงจะไม่จบสิ้น จุฬาราชมนตรีเห็นว่ารัฐบาลต้องสร้างความเข้าใจ เข้าถึงประชาชนในพื้นที่ และรู้ว่าปัญหาภาคใต้มีความซับซ้อนหลายประการ มีเงื่อนไขทางประวัติศาสตร์ที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข
“ที่สำคัญคือความยุติธรรมต้องทำให้ประชาชนแน่ใจได้ว่ารัฐมีความยุติธรรม เพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติผิดพลาดอยู่เรื่อย ชาวบ้านก็ย่อมคิดว่าไปรังแกเขา ทางการต้องทำความเข้าใจ ดึงชาวบ้านส่วนน้อยให้กลับคืนมา” นายอาศิส กล่าว และว่าการเจรจาพูดคุยเป็นหนทางเดียวที่จะยุติปัญหา หรือทำให้คลี่คลายลง
“แต่ในช่วงที่ผ่านมาภายใต้การดูแลของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทางสำนักจุฬาฯ ยังไม่ได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมพูดคุยใด ๆ เขาอาจจะเข้าใจว่าเข้าใจปัญหาดีแล้ว แต่เท่าที่มองรัฐบาลชุดนี้ยังไม่ได้แก้ปัญหาได้เป็นพิเศษ หากเข้ามาคุยเราก็จะให้คำแนะนำไป” นายอาศิส กล่าว
ทั้งนี้ นายวีรพงษ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมคณะได้ไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านในวันนี้ โดยชาวบ้านในพื้นที่และญาติผู้เสียชีวิตแสดงความไม่พอใจต่อการวิสามัญดังกล่าวเพราะเชื่อว่าผู้เสียชีวิตไม่น่าจะเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง และไม่ทราบที่มาที่ไปของอาวุธที่พบในตัวผู้เสียชีวิต ขณะที่ฝ่ายทางการชี้แจงว่าในระหว่างการเข้าปิดล้อมตรวจค้นดังกล่าวมีการยิงออกมาจากกลุ่มคนร้ายก่อน เจ้าหน้าที่จึงต้องยิงออกไปจนเกิดการปะทะกันจนเสียชีวิต
ด้าน มหาวิทยาลัยฟาฏอนี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ออกแถลงการณ์ ยืนยันว่าผู้เสียชีวิต 2 คน จากทั้งหมด 4 คน ในเหตุการณ์เมื่อวันพุธ เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฟาฏอนี พร้อมยืนยันว่า คนทั้งสองไม่ได้เป็นผู้ก่อความไม่สงบ และไม่เคยมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางเป็นภัยต่อความมั่นคง มหาวิทยาลัยฟาฎอนีขอให้ตั้งกรรมการสอบสวนและแสวงหาข้อเท็จจริงร่วมกันในเรื่องนี้