สมาพันธ์สื่อแถลงเร่งตรวจสอบวิสามัญทุ่งยางแดง ให้สื่อเสนอข้อมูลรอบด้าน

สมาพันธ์เครือข่ายสื่อมุสลิมไทย ภายใต้การนำของอ.มูฮัมหมัดเฟาซี แยนา เลขาธิการ ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีเหตุวิสามัญ 4 ศพทุ่งยางแดง หลังปรากฏข้อเท็จจริงสองด้าน และประชาชนในพื้นที่ไม่เชื่อว่าผู้เสียชีวิตเกี่ยวข้องกับกองกำลังก่อความไม่สงบ เรียกร้องให้มีการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และเปิดเผยผลต่อสาธารณะโดยตรง เรียกร้องให้สื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลกรองข่าวก่อนการนำเสนอเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 มี.ค.58 เวลาประมาณ 17.20 น. มีการสนธิกำลังระหว่างฉก.ปัตตานี 25 นปพ. 431 ฉก ทพ.41 กำลังตำรวจจากสภ.ทุ่งยางแดง จนท.ฝ่ายปกครอง และ ทหารจากร้อย ร.35314 ฉก.ปัตตานี ได้เข้าปฏิบัติการตรวจสอบความผิดปกติในพื้นที่ ม.6 บ.โต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี การปฏิบัติการดังกล่าว ส่งผลให้มีการจับกุมประชาชนจำนวน 22 คน และวิสามัญฆาตกรรม จนมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 4 ศพ โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น มีนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยฟาฏอนี 2 คน คือ นายคอลิด สาแม็ง และนายมะดารี แม้เราะ ซึ่งตามการรายงานของสื่อมวลชนในเบื้องต้นระบุว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการ (RKK) มีอาวุธและได้ทำการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่

ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ขัดแย้งกับข้อมูลตามที่ปรากฏเป็นข่าวออกมาในภายหลังว่า ตามการเปิดเผยของญาติผู้เสียชีวิตที่ยอมรับว่า แม้น้องชายจะมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดแต่ไม่เชื่อว่าน้องชายจะเป็นกลุ่มแนวร่วมก่อเหตุไม่สงบ พร้อมยืนยันว่าน้องชายไม่มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง ตามที่เจ้าหน้าที่รายงานว่าพบอาวุธดังกล่าวข้างศพน้องชาย
โดยข้อมูลดังกล่าวยังสอดคล้องกับการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบที่เกิดเหตุในวันถัดมาที่พบอุปกรณ์เสพยาเสพติดในบ้านหลังดังกล่าว และยังสอดคล้องกับการเปิดเผยของผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ซึ่งระบุว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติดของวัยรุ่นในพื้นที่ และตั้งข้อสงสัยว่าอาวุธสงครามที่พบข้างศพมาจากที่ใหน

ขณะที่แถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่อง การเสียชีวิตของนักศึกษาอันเนื่องมาจากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ของมหาวิทยาลัย ฟาฎนี ที่ยินยันในแถลงการระบุว่า นักศึกษาของมหาลัยทั้ง 2 คนที่เสียชีวิต ไม่ปรากฏพฤติกรรมที่ส่อไปในทางเป็นภัยต่อความมั่นคงและเป็นแนวร่วม RKK แต่อย่างใด และทั้งสองคนไม่เคยมีหมายจับในคดีความมั่นคงใดๆ และมหาวิทยาลัยไม่เคยได้รับหนังสือเตือนจากฝ่ายความมั่นคงที่ระบุว่านักศึกษาทั้งสองคนมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคง

จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏออกมาขัดแย้งกันอย่างชัดเจนนี้ อาจส่งผลกระทบหลายฝ่ายที่พยายามทุ่มเทกำลังความสามารถ แรงกาย และแรงในในการสร้างสันติสุขให้คืนกลับมาในพื้นที่อีกครั้ง ตามนโยบายพระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา”

เพื่อให้เกิดความชัดเจน และทำลายความคลางแคลงใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว สมาพันธ์เครือข่ายสื่อมุสลิม ขอสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการอิสระในการสอบสวนเหตุดังกล่าวให้ได้ผลสรุป และเปิดเผยผลสอบสวนดังกล่าวสู่สาธารณะ และขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนได้ทำการตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนก่อนที่จะมีการนำเสนอข้อมูลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

d5589

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น