กองกำลังกบฏชีอะห์หัวรุนแรงฮูธีย์ที่มีอิหร่านเป็นพันธมิตร ยังคงพยายามบุกเข้ายึดพื้นที่รอบนอกของเอเดน เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของเยเมนเมื่อวันจันทร์ (30 มี.ค.) และเกิดการสู้รบอย่างดุเดือดกับกองกำลังเยเมน ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอีก 5 ราย แม้จะมีการโจมตีทางอากาศจากพันธมิตรมุสลิม
ผู้เห็นเหตุการณ์หลายๆ รายในเมืองเอเดนเล่าว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหลายครั้ง และได้เห็นกลุ่มควันดำลอยหนาบริเวณชานเมืองด้านตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งได้เห็นเครื่องบินไอพ่นบินผ่านเหนือศีรษะ ขณะที่ก่อนหน้านั้น กองกำลังเยเมนกล่าวว่า ได้ระดมยิงปืนใหญ่และจรวดเข้าใส่กองกำลังอาวุธซึ่งพยายามบุกเข้ามาในเมืองจากหลายๆ ทิศทาง ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า กองกำลังกบฏชีอะห์หัวรุนแรงฮูธีย์ยังคงเปิดการรุกจากทางตะวันออก ตามแนวถนนเลียบชายฝั่งทะเลอาราเบีย ซึ่งเป็นทิศทางโจมตีใหม่ที่สุด
ขณะเดียวกัน ชาวเมืองตาเลีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเอเดน บอกว่าพวกกองกำลังกบฏชีอะห์หัวรุนแรงฮูธีย์ ที่กองกำลังที่จงรักภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซอเละห์ให้การหนุนหลัง ได้ใช้ปืนรถถังและปืนใหญ่ระดมยิงใส่กองกำลังทหารเยเมนในวันจันทร์ และมีพลเรือนถูกฆ่าตายไป 5 คนจากการสู้รบอันดุเดือดตามท้องถนน
ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันเพื่อชิงเมืองเอเดน เมืองใหญ่อันดับ 2 ของเยเมน ทางด้านเมืองหลวงซานา ที่เวลานี้ตกอยู่ในความควบคุมของกองกำลังกบฏชีอะห์หัวรุนแรงฮูธีย์ เครื่องบินรบจากชาติมุสลิมที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ได้เข้าถล่มเขตทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งอยู่ถัดจากเขตสถานทูตานุทูตต่างๆ รวมทั้งคลังอาวุธบนภูเขานูกุม ซึ่งอยู่เหนือเมืองหลวง ตั้งแต่ก่อนเช้ามืดวันจันทร์ (30) การถล่มคราวนี้อันเป็นวันที่ 5 ต่อเนื่องกันมีความรุนแรงมาก จนกระทั่งนักการทูตชาวเยเมนผู้หนึ่งบรรยายว่า “มันเป็นคืนที่เหมือนอยู่ในนรก”
ขณะที่เจ้าหน้าที่มนุษยธรรมแถลงว่า ยังมีการโจมตีทางอากาศใส่เขตฮารัดห์ ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของเยเมน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 40 คนในค่ายผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ สถานที่ตั้งทางทหาร ทั้งนี้ในขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อกับซาอุดีอาระเบียเพื่อขอความเห็นได้
ขณะที่สำนักข่างอัลญะซีเราะห์รายจากกระทรวงการต่างประเทศเยเมนออกมาระบุว่าการโจมตีทางอากาศในเขตฮารัดห์เกิดขึ้นหลังจากกองกำลังกบฏชีอะห์หัวรุนแรงฮูธีย์ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานในการยิงปืนต่อต้านอากาศยานยิงใส่เครื่องบินรบของพันธมิตรมุสลิม