ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศย้ำจุดยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับอิสราเอล แม้จะมีความเห็นต่างกันในเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน โดยย้ำว่าหากอิสราเอลอ่อนแอลงจะถือเป็น “ความล้มเหลวระดับฐานราก” ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีตนเป็นประธานาธิบดี
จากคลิปวิดีโอบทสัมภาษณ์ความยาว 45 นาที ซึ่งเผยแพร่ลงเว็บไซต์หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า “ผมจะถือเป็นความล้มเหลวในส่วนของผม เป็นความล้มเหลวระดับฐานรากของรัฐบาลที่มีผมเป็นประธานาธิบดี หากอิสราเอลต้องอ่อนแอลงภายใต้การสอดส่องดูแลของผม หรือเพราะงานใดๆ ก็ตามที่ผมทำ”
โอบามา ชี้ว่า ความผิดพลาดนั้นจะไม่ใช่แค่ “ความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ แต่ถือเป็นความล้มเหลวด้านจริยธรรมด้วย” พร้อมย้ำว่า ความเห็นต่างใดๆ ก็ตามไม่อาจทำลายความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอลลงได้
นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ออกมาติเตียนข้อตกลงระหว่างเตหะรานกับมหาอำนาจ P5+1 ว่าเป็น “ข้อตกลงเลวร้าย” เพราะเท่ากับปล่อยให้อิหร่านยังมีโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์ที่ใหญ่โตต่อไป
โอบามา และ เนทันยาฮู ยังมีความเห็นไม่ลงรอยในเรื่องกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลาง โดยอิสราเอลนั้นไม่เห็นด้วยที่จะให้มีรัฐปาเลสไตน์เกิดขึ้น แต่ทำเนียบขาวกลับยืนยันว่า การมี 2 รัฐควบคู่กันจะยุติความขัดแย้งได้อย่างยั่งยืนที่สุด แต่ที่สุดอเมริกาก็ยอมตามความของอิสราเอล
“แม้ผมจะมีความเห็นไม่ตรงกับนายกรัฐมนตรี เนทันยาฮู ทั้งในเรื่องอิหร่านและการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์ แต่ผมก็ยืนยันมาตลอดว่า สหรัฐฯ ไม่เคยทิ้งจุดยืนปกป้องอิสราเอล”
โอบามา ยังกล่าวปกป้องข้อตกลงซึ่งเขาเชื่อว่าจะช่วยให้ตะวันตกสามารถควบคุมกิจกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ โดยผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจให้เป็นการตอบแทน
“มันไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีทางเลือกอื่นที่จะขัดขวางไม่ให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้ดีไปกว่าวิธีเจรจาทางการทูต และกรอบข้อตกลงที่เรากำลังผลักดันอยู่นี้ ซึ่งจะสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้”
อย่างไรก็ตาม โอบามา ยอมรับว่า อิสราเอลมีเหตุอันควรที่จะกังวลเรื่องนี้ และฝากเตือนไปยังอิหร่านว่า “สิ่งที่เราจะทำหลังจากได้ข้อตกลงฉบับนี้มาก็คือ ส่งสารไปยังรัฐบาลอิหร่านและทั่วทั้งภูมิภาคว่า หากใครคิดร้ายต่ออิสราเอล ก็ต้องเจอกับอเมริกา”
โอบามา ยังเอ่ยถึง นาย อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ว่าเป็นคน “อ่านใจยาก” และ “ระแวงสงสัยตะวันตกอย่างลึกซึ้ง” แต่ “เขาก็ตระหนักดีว่า การคว่ำบาตรจะส่งผลให้อิหร่านอ่อนแอในระยะยาว และหากต้องการให้อิหร่านกลับเข้าสู่ประชาคมโลกก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง”
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ โอบามา และคอเมเนอี เคยส่งจดหมายคุยกัน ก่อนที่จะมีการบรรลุข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน