ธนาคารเพื่อการพัฒนาเปอร์โตริโกออกจดหมายเตือนในวันพุธ(22)ว่า คาดว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้ารัฐบาลเปอร์โตริโกจะต้องถูกบังคับสั่งปิดตัวหน่วยงานภาครัฐเพราะไม่มีเงินอยู่ในคลังในดินแดนเกาะแคริบเบียนที่อยู่ใต้การปกครองของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
จดหมายของธนาคารเพื่อการพัฒนาเปอร์โตริโกถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ 1 วันหลังจากที่ได้ส่งถึงรัฐบาลของผู้ว่าการเกาะอาเลฮานโดร การ์เซีย พาดิลลา (Alejandro Garcia Padilla) และประธานสภาสูงและสภาล่างเปอร์โตริโก “สถานการณ์การเงินของเกาะไร้เสถียรภาพโดยสิ้นเชิง และการปิดตัวของหน่วยงานรัฐจะส่งผลเลวร้ายต่อเศรษฐกิจเปอร์โตริโก ที่เจ้าหน้าที่ภาครัฐจะไม่ได้รับเงินเดือนและการให้บริการสาธารณะต้องหยุดลง รวมไปถึงการฟื้นตัวที่ยากลำบากในระยะยาว”
ทั้งนี้ในจดหมายยังระบุว่า หายนะทางการคลังสามารถได้รับการแก้ไขได้หากมีการจำหน่ายพันธบัตรออกไปยังตลาดทุนตามกำหนด พร้อมกันนี้ธนาคารเพื่อการพัฒนาเปอร์โตริโกยังกระตุ้นให้รัฐสภาเปอร์โตริโกออกมาตรการควบคุมและจำกัดค่าใช้จ่ายการคลังงบประมาณประจำปี ทั้งนี้รัฐบาลเปอร์โตริโกได้เตรียมออกพันธบัตรมูลค่า 2 ล้านที่คาดว่าจะออกมาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้เพื่อเสริมความเข้มแข็ง
นอกจากนี้ในจดหมายเตือน ทางธนาคารเพื่อการพัฒนาเปอร์โตริโกยังชี้ว่า ทางรอดที่จะไม่ปิดตัวหน่วยงานภาครัฐนั้น รัฐบาลเปอร์โตริโกจะต้องอนุมัติแผน 5 ปีที่จะลดหนี้สาธารณะลงราว 73 ล้านดอลลาร์ รวมไปถึงปฎิรูประบบภาษีของเกาะแห่งนี้
และหลังจากที่รัฐบาลเปอร์โตริโกได้ทำตามแผนการนี้ และสามารถแสดงตัวเลขการคลังลมดุลได้ จะส่งผลดีต่อการออกพันธบัตร เดวิด ชาเฟย์ (David Chafey) ประธานบอร์ดบริหารธนาคารเพื่อการพัฒนาเปอร์โตริโกกล่าว และเสริมว่า “เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเราต้องทำให้บรรดานักลงทุนมั่นใจ”
เอพีรายงานว่า การปิดตัวครั้งสุดท้ายของหน่วยงานภาครัฐเปอร์โตริโกเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2006 ที่วิกฤตทางการคลังจบลงได้ด้วยได้รับเงินกู้ฉุกเฉิน ซึ่งในขณะนั้นการปิดตัวบางส่วนของหน่วยงานรัฐเป็นเวลา 2 สัปดาห์ทำให้โรงเรียนภาครัฐปิดตัว รวมไปถึงครึ่งหนึ่งของหน่วยงานรัฐบาลกลาง และยังส่งผลให้เรตติ้งบอนด์ถูกหั่นลง