ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ไปเยือนประเทศกาตาร์ในวันจันทร์ (4 พ.ค.) เพื่อควบคุมดูแลการเซ็นสัญญาขายเครื่องบินรบ “ราฟาล” จำนวน 24 ลำ มูลค่าหลายพันล้านยูโร
ข้อตกลงการซื้อขายที่มีมูลค่า 6.3 พันล้านยูโรในครั้งนี้ เป็นการสั่งซื้อเครื่องบินรบ 24 ลำ ที่ผลิตโดยกลุ่มบริษัท “ดัสโซลต์” ของฝรั่งเศส พร้อมออพชั่นพิเศษที่ให้กาตาร์สามารถซื้อเพิ่มได้อีก 12 ลำ
ผู้นำฝรั่งเศสจะเข้าร่วมในพิธีการเซ็นสัญญาซื้อขายเครื่องบินรบราฟาลในวันจันทร์ โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศ “โลรองต์ ฟาเบียส” กับรัฐมนตรีกลาโหม “ฌอง-อีฟ เลอ แดร็ง” ไปร่วมงานด้วย
นอกจากนี้ยังมีอีก 1 ข้อตกลง ที่จะให้ฝรั่งเศสทำการฝึกสอนให้แก่นักบิน 36 คน กับวิศวกรเครื่องกลประมาณ 100 คนของกาตาร์ เช่นเดียวกับพวกเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง เพราะราฟาลสามารถใช้ในภารกิจสอดแนมได้ด้วย
ประธานาธิบดี ฟรองซัวร์ โอลองด์ จะพบกับเจ้าชายแห่งกาตาร์ “ชีค ทามิน บิน ฮามัด อัล-ทานี” ก่อนจะเดินทางต่อไปยังซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะมนตรีความร่วมมืออ่าวอาหรับในวันอังคาร (5 พ.ค.)
โอลองด์ มีกำหนดจะพูดคุยกับชีคทามิน เกี่ยวกับบรรดาวิกฤติต่างๆ ในภูมิภาคนั้น ซึ่งรวมถึงเรื่องปฏิบัติการทางอากาศของพันธมิตรอาหรับ ที่โจมตีพวกกบฏในเยเมน
ทั้งนี้ ผู้นำฝรั่งเศสจะเดินทางไปซาอุฯ ตั้งแต่คืนวันจันทร์ เพื่อพูดคุยกับกษัตริย์ซัลมาน
หลังจากที่ดิ้นรนอยู่หลายปี ในการขายเครื่องบินรบราฟาลให้แก่ต่างชาติ ในที่สุดดัสโซลต์ก็ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา ด้วยการทำสัญญาซื้อขายกับอียิปต์ อินเดีย รวมถึงรายล่าสุดอย่างกาตาร์
จากข้อมูลของฟาเบียส ฝรั่งเศสอาจได้ฉลองอีกครั้งในเร็ววันนี้ สำหรับข้อตกลงซื้อขายเครื่องบินรบกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา แถมดูเหมือนว่าน่าจะลงเอยด้วยดี
ส่วนทางด้าน เลอ แดร็ง ผู้เคยเดินทางมาตะวันออกกลางหลายครั้งแล้ว ได้พบกับ “ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล-นาห์ยาน” เจ้าชายแห่งอาบูดาบีและเป็นรองผู้บัญชาการกองทัพยูเออี เมื่อวันอาทิตย์
สื่อของยูเออีรายงานว่า ทั้งคู่ได้พูดคุยกันเรื่องความร่วมมือในด้านกลาโหม อาทิ ข้อตกลงเกี่ยวกับการฝึกร่วมกัน