721 องค์กร ประกาศล่า 10 ล้านรายชื่อ หนุน กม.คุมบุหรี่ฉบับใหม่

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่โรงแรมริชมอนด์ เวลา 10.30 น.กลุ่มภาคีเครือข่ายสุขภาพกว่า 721 องค์กร อาทิ มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งประเทศไทย เครือข่ายองค์กรงดเหล้า 77 จังหวัด สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ จัดแถลงข่าว ประกาศเจตนารมณ์ล่ารายชื่อประชาชน 10 ล้านรายชื่อ เพื่อสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ เพื่อมอบให้รัฐบาลในวันงดสูบบุหรี่โลกปลายเดือนนี้ ทั้งนี้ในงานมีแกนนำเครือข่ายเข้าร่วมกว่า 400 คน และมีการแสดง กิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “YES WE CAN” โดยตัวแทนสาขาอาชีพร่วมกันยกบุหรี่ยักษ์ ที่กดทับตัวเด็กและเยาวชนออก และร่วมลงชื่อสนับสนุน พ.ร.บ.ฯ

นพ.วันชาติ ศุภจัตุรัส กรรมการสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ในนามของตัวแทนสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ซึ่งมีองค์กรภาคีเครือข่ายมากกว่า700องค์กรทั่วประเทศ ยืนยันและสนับสนุน ร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่นี้มาโดยตลอด เพราะเป็นกฎหมายเร่งด่วนสำคัญลำดับแรกที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้รัฐบาลพิจารณาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว การคุ้มครองเด็กๆ จากการเสพติดบุหรี่เป็นความรับผิดชอบของทุกคนในสังคม การล่าช้าในการผ่านกฎหมายเท่ากับเป็นการล่าช้าในการช่วยชีวิตรวมถึงการปกป้องเด็กและเยาวชน จึงขอให้ทุกฝ่าย ทุกสาขาอาชีพในสังคมไทย ร่วมกันลงชื่อสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้รัฐบาล และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เร่งรัดพิจารณาร่างกฎหมายให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด

นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย กล่าวว่า มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัยในฐานะองค์กรที่ทำงานขับเคลื่อนด้านสุขภาพ และการสร้างสังคมสุขภาวะหน่วยงานหนึ่งในระดับพื้นที่ หมออนามัย คือ บุคลากรที่ปฏิบัติงาน ณ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ ซึ่งมี878อำเภอทั่วประเทศ และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพสต.)จำนวน9,750แห่ง รวมบุคลากร หมออนามัย ประมาณ เกือบ 50,000 คน มีหน้าที่ดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคเรื้อรังทั้งโรคหัวใจโรคอัมพาตโรคปอดเรื้อรัง โรคมะเร็งและโรคเบาหวาน ซึ่งมีการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุร่วม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และความจำเป็นของพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ฉบับใหม่ ซึ่งหากมีผลบังคับใช้ หมออนามัยทั่วประเทศจะสามารถทำงานและขับเคลื่อนการควบคุมการบริโภคยาสูบระดับจังหวัด สร้างให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลดจำนวนคนไทยที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังที่เกิดจากการสูบบุหรี่ พวกเราหมออนามัยทุกคน ขอเป็น 50,000แรงในการเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมกันแสดงพลังมุ่งสู่10ล้านเสียง เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยมี พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ซึ่งคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายก่อนวันงดสูบบุหรี่โลกที่จะมาถึงสิ้นเดือนนี้

นายพันธ์ อ่อนเกลี้ยง ประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข แห่งประเทศไทยภาคใต้ กล่าวว่า อาสาสมัครสาธารณสุขหรือ อสม.ผู้เป็นพลังชุมชนที่สำคัญในการเป็นผู้นำ เป็นต้นแบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งพลัง อสม.ทั่วประเทศ มีจำนวนกว่า1,040,000คน จากสถิติพบว่า ร้อยละ70 ของคนไทยที่สูบบุหรี่อาศัยอยู่ในเขตชนบท ซึ่งอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการของอสม.การเพิ่มประสิทธิภาพกฎหมายควบคุมบุหรี่จะลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ในความรับผิดชอบของอสม.และอสม.จะเป็นพลังในการถ่ายทอดความรู้ ทักษะด้านสุขภาพให้แก่คนในชุมชน ซึ่งหาก อสม.1คน ช่วยให้คนสูบบุหรี่เลิกได้อย่างน้อย1คนต่อปี คนไทยที่สูบบุหรี่จะลดลงอย่างน้อย1ล้านคนต่อปี

นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยตัวแทนเยาวชนจากสถานศึกษา นักเรียนระดับมัธยม และเยาวชนจากชมรมต่างๆ รวมตัวกันเพื่อขับเคลื่อนและสนับสนุนนโยบายควบคุมการบริโภคยาสูบ ที่ส่งผลในการปกป้องสุขภาพของเด็กและเยาวชนไทย มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 ปัจจุบัน มีเยาวชนไทยอายุ15-24 ปี ติดบุหรี่แล้ว1.6ล้านคน ที่น่ากลัวคือ ร้อยละ70ของคนไทย ที่ติดบุหรี่จะเลิกสูบไม่ได้ไปตลอดชีวิต แม้ว่าร้อยละ 30 ที่เลิกสูบได้ แต่โดยเฉลี่ยจะตกเป็นทาสของบุหรี่คนละ20 ปี ดังนั้น นั่นหมายถึงจำนวนเยาวชนไทยที่ติดบุหรี่ขณะนี้ กว่า1.1ล้านคน จะเลิกบุหรี่ไม่ได้ไปจนตลอดชีวิต และกว่าครึ่งหนึ่งของเยาวชนที่ติดบุหรี่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคร้ายจากการสูบบุหรี่ และในแต่ละปีมีเยาวชนติดบุหรี่เพิ่มขึ้น100,000คน จึงน่าเป็นห่วงว่าหากประชาชนในวัยที่มีความเปราะบาง ไม่ได้รับการปกป้องคุ้มครองที่ดีพอ อนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมีพ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ อย่างเร่งด่วน เพื่อจำกัดการเข้าถึงบุหรี่ของเด็กและเยาวชน รวมถึงหยุดยั้งการตลาดที่มุ่งเข้าหาเด็กและเยาวชน ในนามของเด็กและเยาวชน เรายังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและสนช.จะมอบ พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นของขวัญแก่ลูกหลาน ผู้เป็นอนาคตของชาติโดยเร็ว

ภ.ก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) กล่าวว่า บุหรี่และน้ำเมาล้วนเป็นสิ่งเสพติดที่ทำลายทั้งสุขภาพเศรษฐกิจและสังคมโดยเฉพาะบุหรี่ ฆ่าคนไทย ปีละกว่า5หมื่นคน หรือทุก10นาทีมีคนไทยตายเพราะบุหรี่ ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ นักสูบหน้าใหม่ อายุต่ำลงเรื่อยๆ และเมื่อเริ่มสูบบุหรี่ จะนำไปสู่สิ่งเสพติดอื่นๆ รวมทั้งยาเสพติดผิดกฎหมายด้วย ซึ่งงานวิจัยบอกว่า เยาวชนที่เริ่มจากการสูบบุหรี่ มีโอกาสติดยาเสพติด มากกว่าเยาวชนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ถึง10เท่าเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เคยร่วมกับอีกหลายองค์กร รวบรวมรายชื่อเพื่อสนับสนุน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551ได้กว่า13ล้านรายชื่อ ครั้งนี้จึงมั่นใจว่าจะได้มากกว่า10 ล้านรายชื่อแน่นอน เครือข่ายงดเหล้า ทุกจังหวัด จะร่วมมือกับองค์กรต่างๆในพื้นที่ จัดกิจกรรมรณรงค์ และรวบรวมลายชื่อให้ได้มากที่สุด และเชื่อมั่นว่าแม้เกษตรกรปลูกใบยาสูบ หรือร้านค้ารายย่อยก็เป็นห่วงลูกหลาน ไม่อยากให้ติดสิ่งเสพติดทุกชนิด จะร่วมลงชื่อด้วยไม่น้อย

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น