นายกเล็กสตูลไม่เห็นด้วยตั้งศูนย์ผู้อพยพโรฮิงญา

ผู้สื่อข่าว ASTV รายงานว่า หน่วยงานภาครัฐในจังหวัดสตูลยังคงเฝ้าระวังการอพยพผ่านเข้ามาของชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญา ทำให้หลายฝ่ายโดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่นได้ตั้งวงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมหากจะเตรียมตั้งจุดพักพิงไว้ชั่วคราว แม้จะเป็นการกระทำที่เห็นแก่มนุษยชน โดยทางผู้นำท้องถิ่นเห็นว่าจะมีปัญหาต่างๆ ตามมาหากมีการเตรียมสถานที่อำนวยความสะดวก จึงอยากให้มีการพิจารณาให้ดีสำหรับการใช้พื้นที่สตูล

นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล กล่าวว่า ปัญหาการทะลักเข้ามาของชาวโรฮิงญาเป็นปัญหาระดับโลกซึ่งหลายฝ่ายต้องเข้ามาดูแล เพราะจังหวัดสตูลเป็นเพียงทางผ่านการจะตั้งศูนย์อพยพชั่วคราวจึงไม่ใช่คำตอบ ประเทศที่สร้างปัญหาอย่างอังกฤษ ประเทศอเมริกาพี่ใหญ่ อีกทั้ง UN ต้องเข้ามาช่วยเหลือไม่ใช่ผลักภาระให้ประเทศไทย จึงอยากให้ทางผู้ใหญ่คิดให้ดีว่าหากตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้วมีความจำเป็นแค่ไหนควบคุมได้หรือไม่ จะนานแค่ไหนเพื่ออะไรและจะทำอย่างไร

ขณะที่พบว่านักการเมืองท้องถิ่นระดับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล 3 คน เข้าไปพัวพันคดีการค้ามนุษย์ ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลมีหนังสือด่วนที่สุดให้สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลเปิดประชุมด่วน หลังพบสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีความประพฤติในทางที่เสื่อมเสีย ตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 11 (7) เพื่อประชุมวิสามัญครั้งที่ 1 หารือในการหาขอมติ 1 ใน 3 ว่าจะให้มีการพ้นจากการเป็นสมาชิกหรือไม่

จึงมีการเปิดอภิปรายขอมติในที่ประชุม โดยมีนายจำรูญ ดีเสาวภาคย์ ประธานสภาเปิดประชุมท่ามกลางสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล 21 คนจาก 24 คน โดยขาดนายอาบู ฮะอุรา สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอควนโดน ที่ดำรงตำแหน่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 สมัย นายอนัส หะยีมะแซ สมาชิกสภา อบจ.เขตอำเภอเมือง ดำรงตำแหน่งสมัยแรก ถูกควบคุมตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วนั้น และนายสมพล อาดำ สมาชิกเขตอำเภอเมือง ดำรงตำแหน่งมาไม่น้อยกว่า 3 สมัยเช่นกัน ซึ่งขณะนี้มีหมายจับยังอยู่ระหว่างหลบหนี โดยข้อสรุปในที่ประชุมสภาได้เปิดให้ลงชื่อ 1 ใน 3 โดยเปิดให้สมาชิกเข้าชื่อไม่เกิน 15 วัน เพื่อยื่นก่อนจะมีมติอีกครั้งว่าจะถอดถอนหรือไม่

นายจำรูญ ดีเสาวภาคย์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล กล่าวว่า การจะถอดถอนสมาชิกที่พัวพันคดีค้ามนุษย์หรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับสมาชิก และเห็นว่าสมาชิกเองก็ต้องตระหนักดีแล้วว่าการที่ตัวเองจะทำงานเป็นตัวแทนประชาชน ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือพัวพันคดีที่ผิดกฎหมาย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเขาด้วยหาคดีไม่ถึงที่สุดก็ถือว่าเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น