ยูเอ็นร้อง “อินโดฯ-มาเลย์-ไทย” รับผู้อพยพขึ้นฝั่ง

ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนและข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาวุโสรายอื่นๆ ออกมาเรียกร้องในวันอังคาร (19) ให้ อินโดนีเซีย , มาเลเซีย และไทยรับผู้ลี้ภัยที่ติดอยู่กลางทะเลขึ้นฝั่ง

ถ้อยแถลงของพวกเขา ระบุว่า ทั้ง 3 ประเทศและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่มีสมาชิก 10 ประเทศ ควร “ยึดถือการช่วยชีวิตคนเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก ด้วยการยกระดับปฏิบัติการค้าหาและกู้ภัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” และ “อำนวยความสะดวกให้กับการขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย”

ถ้อยแถลง ระบุว่า ผู้อพยพเหล่านี้ควรได้รับการจัดหาที่พักพิงในพื้นที่ปลอดภัยและในสภาพแวดล้อมที่มีมนุษยธรรม , ควรได้รับการรักษาพยาบาล และจากนั้นก็ควรเข้ารับการคัดกรองรายบุคคลเพื่อระบุว่าพวกเขาจำเป็นต้องได้รับการปกป้องในฐานะผู้ลี้ภัย , ผู้แสวงหาที่พักพิง , คนไร้สัญชาติ หรือเหยื่อการค้ามนุษย์หรือไม่

ถ้อยแถลงฉบับนี้ได้รับการลงนามโดย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) , เจ้าชายสอิ๊ด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ , วิลเลียม แอล.สวิง ผู้อำนวยการองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอพยพ (IOM) และ ปีเตอร์ ซูเธอร์แลนด์ ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการยูเอ็นด้านการอพยพและการพัฒนาระหว่างประเทศ

อินโดนีเซีย , มาเลเซีย และไทยถูกประณามจากนานาชาติจากการผลักดันกลับเรือผู้อพยพชาวโรฮิงญาที่สิ้นหวังจากพม่าและบังกลาเทศ ซึ่งในตอนนี้ล่องลอยอยู่กลางทะเลโดยแทบไม่มีเสบียงเหลือและไม่มีที่ไป

ถ้อยแถลงฉบับนี้ ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมามีผู้อพยพออกเดินทางทะเลแล้วกว่า 88,000 คน โดยเพียงแค่ 3 เดือนแรกของปีนี้ก็มีมากถึง 25,000 คนแล้ว

“เชื่อว่ามีผู้เสียชีวิตกลางทะเลแล้วอย่างน้อย 1,000 คน เนื่องจากสภาพการเดินทางที่อันตราย และในจำนวนเท่ากันจากการขาดแคลนสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพและการกระทำทารุณโดยฝีมือของผู้ลักลอบค้ามนุษและย์ผู้ลักลอบขนคนเข้าเมืองที่ต่ำช้า” ถ้อยแถลง ระบุ

ในอ่าวเบงกอล “ผู้อพยพและผู้ลี้ภัยได้รับอาหารเป็นเพียงข้าวขาวเท่านั้น ทั้งยังตกเป็นเหยื่อความรุนแรง รวมถึงความรุนแรงทางเพศ ผู้หญิงถูกข่มขืน เด็กๆ ถูกแยกจากครอบครัวและถูกทารุณ ผู้ชายถูกทุบตีและถูกโยนลงทะเล”

เจ้าหน้าที่ยูเอ็น ระบุว่า กลุ่มประเทศจุดหมายปลายทางควรยุติการกักกันตรวจคนเข้าเมือง และมาตรการลงโทษอื่นๆ อีกทั้งควรปราบปรามกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์และต่อสู้กับโรคหวาดกลัวชาวต่างชาติ

ชาวบังกลาเทศเชื่อว่าเป็นผู้อพยพทางเศรษฐกิจเสียส่วนใหญ่ แต่ชาวโรฮิงญาซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในพม่านั้นกำลังหลบหนีลี้ภัยจากบ้านเกิดของตนในรัฐยะไข่ทางตะวันตก หลังจากหลายปีของความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติทางศาสนาโดยชาวพุทธที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ ในการไล่ฆ่า เผ่าทำลายชุมชน โรงเรียน มัสยิด โดยการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่พม่า

เอเดรียน เอ็ดเวิร์ด โฆษกของ UNHCR บอกกับผู้สื่อข่าวในนครเจนีวาว่า ผู้อพยพจากพม่าและบังกลาเทศเกือบ 4,000 คนยังคงติดอยู่กลางทะเล

“ใน 9 วันที่ผ่านมา มีผู้อพยพขึ้นฝั่งที่อินโดนีเซียแล้วทั้งสิ้น 1,396 คน , มาเลเซีย 1,107 คน และภาคใต้ของไทย 106 คน” เขากล่าว และเสริมว่า “นับตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีรายงานการขึ้นฝั่งในที่อื่นๆ ในภูมิภาคนี้เลย”

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น