ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำพื้นที่ส่วนใหญ่ของฮิวสตัน จมอยู่ใต้น้ำในวันอังคาร(26พ.ค.) แฟนบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอติดค้างที่สนามแข่งขัน ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 20 ศพทั้งในสหรัฐฯและเม็กซิโก
มลรัฐเทกซัสและโอคลาโฮมา ทางภาคใต้ของสหรัฐฯและทางเหนือสุดของเม็กซิโก ต้องประสบกับความทุกข์ยากจากสภาพอากาศรุนแรงมานานหลายวันแล้ว ในนั้นรวมถึงพายุทอร์นาโดที่ซัดกระหน่ำ ซึ่งทำชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนของสองประเทศ เสียชีวิต สูญหายและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ในเมืองฮิวสตัน มลรัฐเทกซัส มีฝนตกลงมาอย่างหนักหนาถึง 10 นิ้ว และแค่ไม่กี่ชั่วโมง เมืองก็ต้องประสบกับอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบทศวรรษ และมีรายงานว่าเหล่ากองเชียร์ที่ออกไปชมบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอของฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์ ในนัดมันเดย์ไนท์ ต้องติดค้างอยู่ที่สนามแข่งขันเป็นจำนวนมาก
ภาพข่าวจากเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสในฮิวสตัน เผยให้เห็นรถยนต์นับร้อยคันที่ถูกทิ้งไว้จมอยู่ใต้น้ำตามถนนสายต่างๆ ขณะที่ท้องถนนกลายสภาพเป็นสายน้ำที่เวิ้งว้าง ประชาชนบางส่วนติดอยู่ในรถยนต์ บางส่วนหลบภัยอยู่ในบ้าน
แอนนี พาร์คเกอร์ นายกเทศมนตรีฮิวสตันเผยเมื่อค่ำคืนวันจันทร์(25พ.ค.) มีผู้เสียชีวิตท่ามกลางอุทกภัย 2 คน แต่คาดหมายว่ายอดเหยื่ออาจพุ่งสูงกว่านี้ “ดิฉันขอร้องและเรียกร้องทุกคนจงอยู่ในความระมัดระวัง และตระหนักว่าเราอาจเจอฝนตกลงมาเพิ่มเติม” เธอแถลงกับผู้สื่อข่าว พร้อมแนะนำให้ประชาชนในเมืองที่มีประชากรมากที่สุดลำดับ 4 ของสหรัฐฯ อยู่แต่ภายในบ้าน
“เราเห็นรถยนต์ถูกทิ้งไว้ทั่วเมือง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินพยายามเข้าไปตรวจสอบรถยนต์เหล่านั้น เพื่อดูว่าใครติดอยู่ภายในหรือไม่” เธอกล่าว พร้อมเผยว่าย่านกลางเมืองฮิวสตัน อันเป็นที่ตั้งของสนามกีฬาโตโยต้า เซ็นเตอร์ อารีนา รังเหย้าของฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม แต่กองเชียร์ราว 200 คนยังติดค้างหลายชั่วโมงไม่สามารถกลับบ้านได้ เพราะถนนจมอยู่ใต้บาดาล
ท่ามกลางความกังวลที่มากขึ้นเรื่อยๆ มีรายงานว่ามีประชาชนที่ยังสูญหายในเฮย์ส เคาน์ตี ของเทกซัส อย่างน้อย 12 คน หลังจากก่อนหน้านี้ยืนยันผู้เสียชีวิต 1 คนในเทกซัสและอีก 2 คนในมลรัฐโอคลาโฮมา ที่อยู่ติดกัน
ข้ามพรมแดนไปทางใต้ เม็กซิโก ก็ต้องเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติเลวร้ายเช่นกัน โดยพายุทอร์นาโดลูกยักษ์ได้ซัดถล่มเมืองชิวดัด อาคูนา ตอนรุ่งสางวันจันทร์(25พ.ค.) คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 13 ศพและบ้านเรือนหลายน้อยหลังพังราบเป็นหน้ากอง ในเหตุซัดถล่มนองเลือดในเวลาเพียงแค่ 6 วินาที
เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังตะเกียกตะกายตามหาทารกรายหนึ่งที่พรากจากพ่อแม่ท่ามกลางทอร์โดที่มีกำลังลมสูงถึง 270-300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง “ทารกอยู่กับพ่อแม่ แต่พวกเขาถูกพายุเหวี่ยงจนปลิว และเรายังหาทารกไม่พบ” เลนิน เปเรซ นายกเทศมนตรีเมืองอีวาริสโตกล่าว
ประธานาธิบดีเอนริเก เปนญา เนียโต เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเมืองที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักแห่งนี้ในวันอังคาร(26พ.ค.) หลังพักคืนในพื้นที่ประสบภัยเพื่อเสนอมอบความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยมีบ้านเรือนหลายร้อยหลังได้รับความเสียหาย และในนั้นจำนวนมากพังพินาศยับเยิน
ด้านฟรานซิสโก มาร์ติเนซ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันพลเรือนแห่งรัฐโกอาวีลา บอกกับเอเอฟพีว่ามีประชาชน 44 คนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลและอีก 242 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย