เดอะ จาอิช อัล-ฟาเตห์ (The Jaish al-Fateh) หรือกองทัพแห่งผู้ชนะ สามารถเข้ายึดอาริฮา (Ariha) ซีเรีย หลังมีการปะทะเล็กน้อยเกิดขึ้น หน่วยงานปกป้องสิทธิมนุษยชนซีเรีย Syrian Observatory for Human Rights แถลง
บีบีซีรายงานเมื่อวันนี้ (29) ว่า ถึงแม้กองกำลังผสมท้องถิ่นร่วมกับอัล-นุสเราะฟรอนท์ สามารถยึดที่มั่นสุดท้ายของรัฐบาลชีอะห์แห่งซีเรียภายใต้การปกครองของ อัล-อัสซาดในอิดลิบได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม กองทัพชีอะห์ซีเรียแถลงอ้างว่าการสู้รบอย่างหนักยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่าหากซีเรียต้องเสียเมืองอาริฮา (Ariha) ไปจริงจะเปิดโอกาสให้กลุ่มมุสลิมครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของอิดลิบที่มีพรมแดนติดตุรกีได้สำเร็จ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นมา ทางกลุ่มนักรบต่างๆสามารถเข้ายึดพืนที่ต่างๆ ของจังหวัด รวมไปถึงในอิดลิบ และ Jisr al-Shughour สำเร็จ ซึ่งอิดลิบนอกจากจะมีพรมแดนติดกับตุรกีแล้ว อิดลิบยังมีพื้นที่ติดกับจังหวัดลาตาเกีย (Latakia) ซึ่งถือเป็นฐานที่มั่นทางการเมืองที่สำคัญของกลุ่มชีอะห์ภายใต้การนำของอัสซาด
ในขณะเดียวกัน หัวหน้ากลุ่ม “อัล นุสเราะ ฟรอนต์” ประกาศว่ารับคำสั่งจากหัวหน้าอัลกอออิดะห์ ไอมาน อัล-ซาวาฮิรี (Ayman al-Zawahiri) ไม่ใช้ซีเรียเป็นฐานโจมตีตะวันตก ซึ่งในการให้สัมภาษณ์กับอัลญาซีเราะฮ์ อาบู มูฮัมหมัด อัล-จูลานี (Abu Mohammed al-Julani) ในการออกอากาศในคืนวันพุธ (27) และเป็นครั้งที่ 2 ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อกาตาร์ในปี 2013 ในครั้งที่อัล-นุสเราะฟรอนท์แยกตัวออกมาจากกลุ่ม IS หลังพบว่า IS มีอุดมการณ์ที่เปลี่ยนไป
“เรามาที่นี่เพียงเพื่อทำให้ภารกิจเดียวประสบความสำเร็จคือการสู้กับรัฐบาลซีเรีย รวมไปถึงสมุนของประธานาธิบดีซีเรียอัสซาด รวมไปถึงฮิซบุลลาต และกลุ่มอื่นๆ” อาบู มูฮัมหมัด อัล-จูลานีกล่าว
