จูลี บิชอป รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลียเปิดเผยมาตรการคว่ำบาตรล่าสุดต่อหนึ่งในพลเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดหาสมาชิกให้กับกลุ่มไอเอส ในวันนี้ (4) พร้อมยกระดับการกวาดล้างกิจกรรมของกลุ่มติดอาวุธ
ออสเตรเลีย ได้ยกระดับการเตือนภัยคุกคามเป็น “ระดับสูง” และเปิดฉากการตรวจค้นขนานใหญ่ในเมืองใหญ่ต่างๆ เสมือนเป็นการเลือกปฎิบัติต่อชุมชนชาวมุสลิม
เนอิล ปราคาช เป็นพลเมืองออสเตรเลียคนที่ 3 ที่จะถูกรัฐบาลยึดทรัพย์สิน หลังกล่าวหาว่าเขาเป็นสมาชิกของกลุ่มไอเอส
ปราคาช ซึ่งถูกรัฐบาลอ้างว่าเชื่อว่าเขาย้ายไปอยู่ที่ซีเรียเมื่อปีที่แล้ว อยู่ในลิสต์รายชื่อเดียวกันกับนักรบกลุ่มไอเอสชาวออสซี่อีก 2 คน คือ โมฮัมเหม็ด อีโลมาร์ และ คอลิด ชาร์รุฟ ซึ่งปรากฏตัวในภาพถ่ายเมื่อปีที่แล้วขณะถือศีรษะของทหารซีเรีย
“ปราคาช พยายามยุยงให้เกิดการก่อการร้ายรุนแรงขึ้นในออสเตรเลีย” บิชอป กล่าวในถ้อยแถลง
“เขาใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลน์เพื่อเผยแพร่ลัทธิสุดโต่งและเพื่อชักชวนสมาชิกใหม่ๆ รวมถึงเด็กสาวและหญิงสาว ให้เดินทางไปยังซีเรียและอิรักเพื่อเข้าร่วมกับพวกดาอิช” เธอกล่าวเสริม
“การขึ้นบัญชี ปาคาช คือการส่งข้อความถึงใครก็ตามที่จัดหาสมาชิกหรือเดินทางไปยังต่างแดนเพื่อเข้าร่วมองค์กรก่อการร้ายว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะทำทุกอย่างภายใต้อำนาจที่มีเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามของก่อการร้ายจากทุกทิศทาง”
ภายใต้อำนาจด้านความมั่นคงอันเข้มงวดล่าสุดที่ประกาศโดยรัฐบาลชาตินิยมขวาจัดของนายกรัฐมนตรี โทนี อ็บบอตต์ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พลเมืองออสเตรเลียอาจรับโทษจำคุกถึง 10 ปีจากความผิดฐานเดินทางไปยังพื้นที่ต่างแดนที่ถูกทางการประกาศว่าห้ามเข้า
แอ็บบอตต์ ยังพยายามที่จะสกัดการไหลของเงินทุนไปยังกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ในต่างแดน เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลสั่งปิดธุรกิจการโอนเงินที่ครอบครัวของ ชาร์รุฟ เกี่ยวข้องด้วย
ปราคาช ปรากฏตัวในคลิปวีดีโอโฆษณาชวนเชื่อภาษาอังกฤษของกลุ่มไอเอส โดยในคลิปเขาแกว่งปืนไรเฟิลจู่โจมไปมาและเรียกร้องให้มีการโจมตีพลเมืองออสเตรเลีย
มาตรการคว่ำบาตรนี้มีผลต่อใครก็ตามที่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อ ปาคาช ด้วยการลงโทษจำคุกสูงสุด 10 ปีและปรับ 425,00 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 3 เท่าของจำนวนเงินที่ส่งให้เขา
เมื่อเดือนที่แล้ว แอ็บบอตต์ ประกาศว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรมให้กับชาวออสเตรเลียที่พยายามออกมาจากกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ และกลับมายังประเทศบ้านเกิดแห่งนี้โดยเด็ดขาด และเขาต้องการถอดความเป็นพลเมืองจากกลุ่มผู้ที่ถือ 2 สัญชาติ หากพวกเขามีส่วนร่วมกับกิจกรรมของกลุ่มติดอาวุธ รวมถึงประกาศจะลงโทษภรรยา และลูกๆ ถ้าพบว่าหัวหน้าครอบครัวของพวกเขาเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้