ซาอุดีอาระเบียแถลงว่า สามารถใช้ขีปนาวุธ “แพทริออต” ยิงสกัดจรวด “สกั๊ด” ที่พวกกบฏชีอะห์ในเยเมนที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน พยายามยิงใส่เมืองชายทะเลแห่งหนึ่งในซาอุดีอาระเบียกลางดึก เผยสกั๊ดของเยเมนเกือบ 300 ลูกในสภาพพร้อมใช้งาน ถูกกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ยึดไว้
สำนักข่าวซาอุดี เพรสส์ เอเจนซี (เอสพีเอ) ของทางการซาอุดีอาระเบียรายงานว่า ขีปนาวุธ 2 ลูกซึ่งยิงขึ้นไปโดยหน่วยขีปนาวุธ “แพทริออต” สามารถสกัดการโจมตีที่รุนแรงด้วยจรวดสกั๊ดที่ถูกยิงเข้ามาเมื่อเวลาประมาณ 02.45 น. ของวันเสาร์ (ตรงกับ 06.45 น. ตามเวลาเมืองไทย) ที่บริเวณรอบๆ เมืองคอมิส มูชาอิต (Khamis Mushait) ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของซาอุดีอาระเบีย
การโจมตีที่มีเป้าหมายลึกข้ามาในดินแดนซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พวกกบฏในเยเมนนำเอา ขีปนาวุธสกั๊ด ที่ผลิตขึ้นตั้งแต่ยุคสงครามเย็นมาใช้งาน หลังจากที่พันธมิตรชาติอิสลามได้ใช้ปฎิบัติการทางอากาศตามการร้องขอของรัฐบาลเยเมนต่อสหประชาชาติ เพื่อสกัดการยึดครองแผ่นดินเยเมนของฝ่ายกบฎชีอะห์ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา การโจมตีเหล่านี้มุ่งทำลายคลังอาวุธและที่ตั้งฐานจรวดสกั๊ดตามที่ต่างๆ ทั่วเยเมน
เมืองคอมิส มูชาอิต เป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศกษัตริย์คอลิด (King Khalid Air Base) อันเป็นฐานทัพอากาศใหญ่ที่สุดในพื้นที่ตอนใต้ของซาอุดีอาระเบีย ชาวซาอุดีหลายคนรายงานไว้ในสื่อสังคมว่าได้ยินเสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังขึ้นรอบๆ เมืองนี้ในระหว่างที่เกิดเหตุโจมตีกลางดึก
สำนักข่าวเอสพีเอประณามว่า กลุ่มกบฎชาวชีอะห์ที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านและรู้จักกันในนามกลุ่ม “ฮูธีย์” ตลอดจนพวกพันธมิตรของฮูธีย์ในกองทหารส่วนซึ่งยังคงจงรักภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีทรราช อาลี อับดุลเลาะห์ ซอเละห์ ของเยเมน เป็นผู้ก่อเหตุคราวนี้ ขณะที่สำนักข่าวซาบา (SABA) ของทางการเยเมนที่ปัจจุบันตกอยู่ในความควบคุมของฝ่ายฮูธีย์ ก็รายงานตรงกันว่า ฝ่ายกบฏและพันธมิตรเป็นผู้ยิงขีปนาวุธสกั๊ดคราวนี้
เอสพีเอรายงานว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการใช้จรวด “แพทริออต” สกัดกั้นขีปนาวุธ “สกั๊ด” แล้ว กลุ่มพันธมิตรนำโดยซาอุดีอาระเบียยังได้ตอบโต้ด้วยการเข้าโจมตีและทำลายฐานยิง “สกั๊ด” ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองซาดา อันเป็นที่มั่นซึ่งอยู่ทางด้านใต้ของฝ่ายกบฎชีอะห์ฮูธีย์
ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงชาวเยเมนเปิดเผยว่า เครื่องบินของพันธมิตรได้เข้าโจมตีทางอากาศอย่างน้อยที่สุด 6 ระลอกเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ โดยเล่นงานขบวนรถลำเลียงของฝ่ายฮูตีที่ตอนนั้นกำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองซาดา
ฝ่ายกบฏฮูธีย์ได้ใช้กำลังบุกยึดเมืองหลวงเยเมนในเดือนกันยายนปีที่แล้วโดยแทบไม่มีการขัดขวางจากทหารเยเมน หลังจากนั้นผู้แทนสันติภาพสหประชาชาติได้เป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพ เพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่กลุ่มกบฎชีอะห์ให้การยอมรับ โดยกลุ่มกบฎต้องถอนกำลังออกจากเมืองหลวง แต่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของเยเมนไม่คืบหน้าเนื่องจากกลุ่มกบฎชีอะห์อ้างว่าไม่ยอมรับรัฐบาลทุกชุดที่ตั้งขึ้นและใช้กำลังยึดครองส่วนราชการต่างๆ รวมถึงที่ตั้งทางทหารของเยเมนอย่างต่อเนื่องโดยที่สหประชาชาติซึ่งเป็นตัวกลางในการเจรจา และสหรัฐอเมริกาซึ่งมีฐานทัพอยู่ในเยเมน กลับไม่ได้สกัดกั้น หรือขัดขวางการใช้กำลังยึดครองเยเมนของกลุมกบฎชีอะห์ จนทำให้ประธานาธิบดีเยเมนต้องหลบหนีออกนอกประเทศ และขอความช่วยเหลือชาติมุสลิมในการสกัดการคุมคามของกลุมกบฎ
อับดุลคอเลก อับดุลเลาะห์ อาจารย์รัฐศาสตร์ผู้หนึ่งของมหาวิทยาลัยสหรัฐอาหรับเอมิเครต์ ให้ความเห็นว่า การยิงจรวดสกั๊ดเข้าใส่ดินแดนซาอุดีอาระเบียคราวนี้ เป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่พวกฮูตีและพันธมิตรใช้เพื่อส่งสัญญาณว่าพวกเขายังคงมีความสามารถในการสู้รบ
“แน่นอนทีเดียว มันเป็นการบานปลายออกไป” อับดุลเลาะห์กล่าว “ตอนนี้เป็นที่ชัดเจนว่า มันไม่ได้มีการน็อกเอาต์ แสนยานุภาพของพวกฮูตีไม่ได้ถูกกำจัดไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเราจำเป็นต้องยอมรับเรื่องนี้”
สำนักข่าวเอสพีเอของซาอุดีอาระเบียรายงานด้วยว่า เมื่อวันศุกร์ (5) พวกฮูตีและกองกำลังของซาเลห์ ได้เปิดการการรุกภาคพื้นดินซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่พื้นที่ชายแดนติดต่อกับซาอุดีอาระเบีย ทำให้ฝ่ายซาอุดีอาระเบียยิงปืนใหญ่และส่งเฮลิคอปเตอร์โจมตีออกไปปราบปราม
เอสพีเอระบุว่า พวกกบฏ “หลายสิบคน” ถูกสังหารในการสู้รบซึ่งกินเวลาตั้งแต่ตอนรุ่งสางไปจนถึงเที่ยงวันศุกร์ โดยที่ทหารซาอุดีเสียชีวิต 4 คน
ด้าน พล.อ.Ahmad Al-Assiri ที่ปรึกษาสำนักงานรัฐมนตรีกลาโหมซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่ากลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากอิหร่าน ขณะที่กองกำลังติดอาวุธของอดีตประธานาธิบดีอับดุลลอฮฺ ซอและห์ อดีตผู้นำทรราชของเยเมน ที่ให้การหนุนหลังกลุ่มกบฎชีอะห์ ได้ยึดขีปนาวุธสกั๊ดเกือบ 300 ลูกจากคลังแสงของทหารเยเมนไว้ในครอบครอง
เขากล่าวว่า “ขอชุโกร(ขอบคุณ)ต่ออัลลอฮฺ ที่ทรงประทานความสำเร็จในการใช้ขีปนาวุธ 2 ลูกสกัดกั้นการก่อการร้าย”
“เรากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่โหดร้ายที่ไม่ลังเลที่จะโจมตีเป้าหมายพลเรือน”
นอกจากนี้ Al-Assiri ยังได้ชี้ถึงยุทธศาสตร์การรบของกบฎชีอะห์ในเยเมนว่า ในช่วงแรกกลุ่มกบฎได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน โดยให้นักรบของกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์เป็นแนวหน้าในการก่อเหตุรุนแรงโจมตีทางตอนใต้ของเยเมน โดยให้กำลังอีกฝ่ายซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังของอดีตประธานาธิบดีอับดุลลอฮฺ ซอและห์ บุกยึดพื้นที่ต่างๆ ทั่วเยเมน แต่ตอนนี้กองกำลังทั้งสองส่วนได้ร่วมมือกันในการโจมตีซาอุดิอาระเบีย
“เกิดอะไรขึ้นในวันศุกร์ที่ชายแดน มันคือการที่ทั้งสองส่วนของกลุ่มกบฎได้เข้าร่วมกองกำลัง และเปิดตัวการโจมตีที่รุนแรงในพรมแดนของเรา” Al-Assiri กล่าว