“ราชทัณฑ์” เร่งเจรจาม็อบนักโทษเรือนจำ จ.สงขลา ประท้วงเจ้าหน้าที่ที่มีการเข้มงวดในการตรวจสิ่งของต้องห้าม ลั่นเดินหน้าจัดระเบียบคุก เน้นการเจรจาเป็นหลัก
ASTV รายงานว่าวันนี้ (8 มิ.ย.) นายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดสงขลาประมาณ 2,500 คน รวมตัวกันประท้วงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า เบื้องต้นตนได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำจงหวัดสงขลาว่ามีกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำรวมตัวกันประท้วงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่มีการเข้มงวดในการตรวจสิ่งของต้องห้ามและจัดระเบียบเรือนจำ ภายหลังจากได้รับรายงานได้สั่งการให้นายเรืองศักดิ์ สุวารี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางไปเจรจากับกลุ่มผู้ต้องขังแล้ว โดยกลุ่มผู้ต้องขังที่ประท้วงได้มีข้อเรียกร้อง คือ ขอพบผู้ว่าราชการจังหวังสงขลา และผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลา
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ต้องขังยังขอให้ทางเรือนจำอนุญาตให้นำถุงพลาสติกมาใช้รองนั่งและใช้เก็บสิ่งของในเรือนจำได้เหมือนเดิม และขอให้ทางกรมราชทัณฑ์มีคำสั่งย้ายผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและพูดคุยกับกลุ่มผู้ต้องขัง
ในส่วนของการควบคุมสถานการณ์ภายในเรือนจำนั้น เบื้องต้นทางจังหวัดสงขลาได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปราบจลาจล 170 นาย ทหารนาวิกโยธิน 25 นาย ตำรวจตระเวนชายแดน 27 นาย ชุดปฏิบัติการพิเศษเรือนจำ 58 นาย และชุดปฏิบัติการพิเศษจากส่วนกลางอีก 10 นาย รวมเป็น 307 นาย เพื่อดูแลควบคุมสถานการณ์
มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 9 คน เป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำ 1 คน และนักโทษ 8 คน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนความเสียหายมีอาคารที่พักสำหรับญาติที่เข้าไปเยี่ยมถูกเผา 1 หลัง รวมทั้งอาคารศูนย์เรียนรู้ถูกเผาเสียหายภายใน นอกจากนี้ยังมีรั้วเหล็กที่เป็นที่กั้นระหว่าง แดน 1,2,3 ถูกนักโทษพังเสียหาย
สำหรับสถานการณ์ภายนอกเรือนจำมีญาติของผู้ต้องขังประะมาณ 200 รายที่เดินทางมาเพื่อขอเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง และได้สอบถามสถานการณ์กับทางเจ้าหน้าที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีผู้ต้องขังถูกยิงและได้รับบาดเจ็บ กรณีดังกล่าวนายเรืองศักดิ์ ได้ทำการชี้แจงต่อญาติผู้ต้องขังแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการจัดระเบียบเรือนจำและเข้มงวดมากเกินไปใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า คงไม่ใช่ทั้งหมด และไม่ใช่เหตุผลนี้เพียงเหตุผลเดียว เนื่องจากมาตรการที่กรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมดำเนินการนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว ยืนยันว่าจะเดินหน้าและทำตามนโยบายดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้ การอยู่ร่วมกันจำเป็นต้องมีกติกาเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ทางกรมราชทัณฑ์ได้ประเมินสถานการณ์ไว้แล้วว่าจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เพราะนักโทษกว่า 300,000 รายคงไม่พอใจกับนโยบายดังกล่าว เบื้องต้นจะใช้วิธีการเจรจาเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า คาดว่าเรือนจำอื่นจะทำลักษณะเช่นเดียวกับเรือนจำนี้หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ตนได้สั่งกำชับทางเรือนจำอื่นให้เร่งคลี่คลายสถานการณ์ โดยจะเร่งเดินทางไปยังเรือนจำจังหวัดสงขลาในช่วงเย็นวันนี้ ทั้งนี้ ได้รายงานให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว โดย พล.อ.ไพบูลย์ได้เน้นย้ำว่าให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการเจรจากับกลุ่มผู้ต้องขังเป็นหลัก