TNN24 รายงานว่า ที่ท่าเรือชลาลัย ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นายชัยณรงค์ นันทสิน ไต๋เรือโชคทำดี 78 และผู้จัดการเรือเกรียงไกร 20 ของนางสุนี อ่อนละมุน เจ้าของเรือเกรียงไกร 20 และเรือเกรียงไกร 15 ที่ถูกทหารเรือจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชาจับกุม เปิดเผยว่าระหว่างที่เรือเกรียงไกร 20 เรือเกรียงไกร 15 และเรือ ก ธนาโชค 8 กำลังลอยเรือทำประมงในพื้นที่ทะเลห่างจากจากเกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด ประมาณ 50 ไมล์ทะเลใต้เกาะกูดหรือตำแหน่ง แลต 10 องศา 43 ลิบดาเหนือ, ลอง 101 องศา 49 ลิปดาตะวันออก ที่เป็นน่านน้ำของไทย ในคืนวันที่ 9 มิ.ย.58 เวลา 24.00 น.ได้ถูกทหารเรือจ.เกาะกง ขับเรือเร็ว 3 เครื่องยนต์เข้ามาจับกุมเรือเกรียงไกร 20 และทหารเรือ 3 คน พร้อมอาวุธปืนอาก้าเข้าทำการจี้ไต๋เรือพร้อมบังคับไม่ให้ใช้เครื่องมือสื่อ สารและได้บังคับให้ขับเรือเข้าในพื้นที่น่านน้ำกัมพูชา
จากนั้นเรือเร็วของกัมพูชาลำเดียวกันยังได้ไปยึดเรือเกรียงไกร 15 และเรือ ก ธนาโชค 8 ของนายวิสิฐษ์ โชคนาวีสกุลลักษณ์ ไปอีก พร้อมบังคับเรือประมงทั้ง 3 ลำ ออกไปยังน่านน้ำกัมพูชา ซึ่งเรือประมงใกล้กันเมื่อทราบหลังจากไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้แจ้งให้นางสุนี อ่อนละมุน ทราบและได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากทหารเรือภาคที่ 1 แต่ได้รับการประสานงานกลับมาว่าไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ทัน อีกทั้งยังได้ขอเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับเรือประมงซึ่งในเวลานั้นเกินเวลาเที่ยงคืนไม่สามารถหาเอกสารให้ได้
ทั้งนี้ นายชัยณรงค์ กล่าวว่า หลังจากนั้นเรือทั้ง 3 ลำ ถูกนำไปจอดที่บริเวณที่เรียกว่าอ่าวสลาตันในจ.เกาะกง ประเทศกัมพูช และทางผู้บังคับหน่วยได้ให้ทางไต๋เรือทั้ง 3 ลำแจ้งไปที่เจ้าของว่าได้เข้ามาทำประมงในน่านน้ำกัมพูชาและถูกจับ และถูกเรียกร้องให้นำเงินมาจ่ายค่าปรับ 1.3 ล้านบาท/ลำ ซึ่งเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ทำให้เจ้าของเรือประมงไม่สามารถดำเนินการ อย่างไรต่อไปได้เนื่องจากยังต้องทำกินอยู่ในพื้นที่นี้อีกจึงได้ต่อรองขอลดค่าปรับเหลือ 1.1 ล้านบาท/ลำ ซึ่งเจ้าของเรือทั้ง 3 ลำได้นำเงินไปชำระแล้วในวันนี้และเรือทั้ง 3 ลำ ได้ถูกปล่อยออกมาจากอ่าวสลาตันแล้ว โดยให้นายมอน ที่เป็นคนไทยเกาะกง เป็นผู้ประสานงานในพื้นที่
ด้าน นางสุนี อ่อนละมุน เจ้าของเรือทั้ง 2 ลำ ซึ่งอยู่ที่ปากน้ำระยอง อ.เมือง จ.ระยอง กล่าวว่า เสียใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาทำประมงอย่างถูกต้องมาตลอด หากทำผิดและถูกจับจะยอมรับ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ เพราะเรือประมงของเราทำประมงในเขตไทย เมื่อถูกจับจึงถูกบังคับให้เข้าไปในน่านน้ำกัมพูชา ซึ่งเรือทหารกัมพูชาต้องการเรียกค่าไถ่มากกว่า ขณะนี้อยากให้ทางทหารเรือไทยเข้าทำการคุ้มครองเรือประมงของไทยไม่ให้ถูกจับ กุมอย่างไม่ถูกต้องโดยการจอดเรือป้องกันเหมือนที่เรือกัมพูชาทำ เพราะที่ผ่านมา แม้จะขอความช่วยเหลือจากเรือทหารเรือที่อยู่ใกล้กับเกาะกูด แต่ไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ประสานกับ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 ที่ดูแลบริเวณน่านน้ำไทยด้าน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด แต่ได้รับการแจ้งให้สัมภาษณ์ ผบ.มชด/1 ซึ่งหลังจากการประสานไปแล้วได้แจ้งให้ติดต่อกับกองกิจการพลเรือน ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เนื่องจากทหารระดับล่างไม่สามารถให้ข้อมูลได้