นางอองซานซูจี ผู้นำฝ่ายค้านของพม่า ได้แสดงความคิดเห็นที่หาได้ยากเกี่ยวกับชาวมุสลิมโรฮิงญาของพม่า เรียกร้องให้ระมัดระวังต่อการมอบสิทธิพลเมืองให้กับชนกลุ่มน้อย โดยกล่าวว่าประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนเช่นนี้ต้องได้รับการจัดการอย่างระมัดระวังมากที่สุด
“รัฐบาลพม่ากำลังพิจารณาสถานะพลเมืองและควรดำเนินการโดยเร็วและโปร่งใสที่สุด แล้วจึงตัดสินใจว่าขั้นตอนต่อไปในกระบวนการนั้นควรจะเป็นอย่างไร” ซูจีกล่าวกับวอชิงตันโพสต์
แต่ในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์เมื่อวันอังคาร (16) ซูจีได้เลี่ยงคำถามว่าชาวโรฮิงญาควรได้รับสิทธิพลเมืองหรือไม่
“การคุ้มครองสิทธิของชนกลุ่มน้อยเป็นประเด็นที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างระมัดระวังมากๆ และเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเท่าที่เป็นได้ นี่เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน พม่ามีกลุ่มศาสนาและเชื้อชาติจำนวนมาก ที่ว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่เราทำให้กับกลุ่มหนึ่งอาจกระทบกับอีกกลุ่มได้เช่นกัน” ซูจี กล่าว
“ดังนั้น สิ่งนี้จึงเป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนอย่างมาก และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในชั่วข้ามคืน”
ชาวโรฮิงญาถูกโจมตีอย่างรุนแรง หลังกลุ่มชาวพุทธที่นำโดยพระสงฆ์ ได้สร้างเรื่องเท็จป้ายสีชาวโรฮิงญา นำมาซึ่งความรุนแรงบุกเผาชุมชน โรงเรียน มัสยิด ในปี 2555 ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่ชาวโรงฮิงญานับแสนคนต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย
ความรุนแรงก่อให้เกิดกระแสความไม่สงบต่อต้านชาวมุสลิมในพม่า และเกิดขึ้นพร้อมกับกระแสชาตินิยมชาวพุทธเพิ่มสูงหลังทางการพม่าปล่อยตัวพระวิระธุออกจากเรือนจำในคดีการเมือง จากนั้นพระวิระธุได้ขึ้นเป็นแกนนำกลุ่ม 969 ซึ่งมีเครื่อข่ายในพม่าและประเทศใกล้เคียงในการเคลื่อนไหวต่อต้านชาวมุสลิมในพื้นที่