จากอินเดีย-แม่สอดทางหลวงเศรษฐกิจยาว 3,200 กม.นายกฯ อินเดียเร่งดัน

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีแห่งอินเดีย เปิดเผยการเดินหน้าโครงการสร้างถนนความยาว 3,200 กิโลเมตร เชื่อมเมืองโมเรห์ในรัฐมณีปุระของอินเดีย เข้ากับ “อำเภอแม่สอด” ในจังหวัดตากของไทย ชี้หากสร้างเสร็จจะมีผลให้การค้าขายของภูมิภาคเอเชียใต้ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์จากระดับปัจจุบัน

รายงานข่าวซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันพุธ (1) โดยหนังสือพิมพ์ “อินเดียน เอ็กซ์เพรสส์” ของอินเดีย ตลอดจนสื่อออนไลน์ชื่อดังของบังกลาเทศอย่าง “บีดีนิวส์ 24” ระบุว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีแห่งอินเดีย ประกาศเร่งเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์ก่อสร้างทางหลวงความยาวถึง 3,200 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมโยงเมืองโมเรห์ในรัฐมณีปุระทางภาคตะวันออกของอินเดียเข้ากับอำเภอแม่สอดในจังหวัดตากของไทย โดยตัดผ่านเมืองมัณฑะเลย์ อดีตเมืองหลวงของพม่าและปัจจุบันเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 3 ของประเทศรองจากนครย่างกุ้ง และกรุงเนปิดอว์

ในความเป็นจริงแล้ว โครงการก่อสร้างทางหลวงซึ่งเปรียบเสมือน “สะพานเศรษฐกิจ” ซึ่งเชื่อมอินเดียเข้ากับ “ภูมิภาคอาเซียน” สายนี้ได้เริ่มต้นก่อสร้างมาบ้างแล้วบางส่วน แต่แหล่งข่าวทางการทูตในกรุงนิวเดลีของอินเดีย เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีโมดีต้องการผลักดันให้การก่อสร้างเส้นทางคมนาคมสายนี้มีความคืบหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของเส้นทางส่วนที่ต้องตัดผ่านประเทศเมียนมาร์

รายงานข่าวระบุว่า การเดินหน้าโครงการสร้างถนนความยาว 3,200 กิโลเมตร ถือเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายต่างประเทศ “Act East policy” ของรัฐบาลโมดี ที่พัฒนาต่อยอดมาจากนโยบาย “Look East” ที่เน้นการเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองกับประเทศในเอเชียเป็นสำคัญ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็น “สมาชิกกลุ่มอาเซียน”
d6890
ทั้งนี้ เป็นที่คาดกันว่า บางส่วนของทางหลวงเศรษฐกิจสายนี้จะเริ่มเปิดใช้ได้บางส่วนตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2016 แต่หากการก่อสร้างแล้วเสร็จครบทั้ง 3,200 กิโลเมตร คาดว่าจะช่วยให้การค้าขายข้ามชายแดนระหว่างไทย พม่า และอินเดียจะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และจะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางและขนส่งสินค้าลงได้อย่างสำคัญ

รายงานข่าวระบุว่า ในปัจจุบันการเดินทางจากรัฐมณีปุระของอินเดีย มายังเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาร์ อาจต้องใช้เวลากว่า 48 ชั่วโมงหรือ 2 วัน แต่หากถนนสายนี้แล้วเสร็จจะใช้เวลาเหลือเพียง “14 ชั่วโมง” เท่านั้น

ในอีกด้านหนึ่ง แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในกระทรวงถนน การขนส่งและทางหลวง (MoRTH) ของอินเดียเปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ต้องการใช้ทางหลวงเศรษฐกิจสายนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าถึงกลุ่มประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขงทั้งลาว เวียดนามและกัมพูชาด้วยเช่นกัน ซึ่งหากนโยบายนี้ประสบความสำเร็จ จะส่งผลให้อินเดียมีทางออกสู่ทะเลเพิ่มขึ้นอีกแห่ง นั่นคือ ทางออกสู่ “ทะเลจีนใต้” ที่ถือเป็นเขตอิทธิพลดั้งเดิมของจีน

ความคิดเห็น

comments

ใส่ความเห็น