นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ เริ่มต้นภารกิจเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (27) โดยหวังที่จะกระชับสัมพันธ์ด้านการค้ากับกลุ่มประเทศอาเซียนที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตเร็ว อีกทั้งเพื่อขอความร่วมมือในการต่อสู้กับกลุ่ม ISIL
ในแผนการเยือนอาเซียน 4 วัน ผู้นำอังกฤษพร้อมด้วยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และกลุ่มผู้นำธุรกิจจากอังกฤษประมาณ 30 คนจะบินตรงไปยังอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย
คาเมรอน จะใช้โอกาสนี้หารือกับประธานาธิบดี โจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย และนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย เกี่ยวกับการกวาดล้างอิทธิพลของ ISIL
รัฐบาลอังกฤษเกรงว่า พลเมืองวัยรุ่นหลายร้อยคนที่เดินทางไปเข้าร่วมกับ ISIL อิรักและซีเรียอาจกลับมาวางแผนก่อเหตุโจมตีในบ้านเกิดตัวเอง
อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก ก็มีพลเมืองหลงเข้าร่วมกับกลุ่ม ISIL แล้วเกือบ 500 คน ในขณะที่มาเลเซียก็มีพลเมืองเข้าร่วมกับไอเอสเช่นกัน
คาเมรอน กล่าวก่อนจะออกเดินทางจากกรุงลอนดอนว่า ตนจะพูดคุยกับผู้นำอาเซียนเกี่ยวกับ “ภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดที่โลกกำลังเผชิญอยู่”
“เราจะปราบกลุ่มก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมพวกนี้ได้ก็ต่อเมื่อได้ลงมือทำอะไรบางอย่าง ทั้งในประเทศของเราเอง ในต่างแดน และในโลกอินเทอร์เน็ต รวมถึงผนึกกำลังกับนานาชาติเพื่อต่อสู้กับศัตรูร่วมกลุ่มนี้”
คาเมรอน ระบุว่า อังกฤษพร้อมที่จะแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้าน “งานก่อการร้ายเชิงปฏิบัติ” และเรียนรู้จากอินโดนีเซียและมาเลเซียเช่นกันว่า พวกเขาจัดการปัญหาลัทธิหัวรุนแรงสุดโต่งและสร้างสังคมที่เคารพความแตกต่างหลากหลายได้อย่างไร
ภารกิจเยือนอาเซียนครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางออกนอกทวีปยุโรปครั้งแรกของ คาเมรอน ตั้งแต่ชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยมีผู้แทนระดับสูงจากกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ ติดตามไปด้วยหลายคน เช่น โรลส์รอยซ์ และผู้ผลิตเครื่องจักรกลก่อสร้างเจซีบี
คาเมรอน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์เดลีเมล์ว่า “นี่คือภูมิภาคที่กำลังเติบโต และผมตั้งใจว่าอังกฤษจะต้องไขว่คว้าทุกโอกาสที่มี”
อย่างไรก็ตาม นายกฯ อังกฤษอาจต้องเผชิญภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อไปถึงมาเลเซีย เนื่องจากช่วงนี้นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก กำลังถูกสังคมซักฟอกจากกระแสข่าวเงินกองทุน วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) หลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกโอนไปเข้าบัญชีส่วนตัวของเขา
นูรุลอิสซะห์ ส.ส.ฝ่ายค้านและบุตรสาวของอดีตผู้นำฝ่ายค้าน อันวาร์ อิบรอฮีม เรียกร้องให้คณะของผู้นำอังกฤษ เปิดโอกาสให้กลุ่มฝ่ายค้านมาเลเซียได้เข้าพบด้วย เพราะการหารือกับรัฐบาล นาจิบ ฝ่ายเดียว “จะทำให้อังกฤษถูกมองว่าเพิกเฉยต่อกระแสคลื่นใต้น้ำ และปัญหาที่ประชาชนชาวมาเลเซียกำลังวิตกกังวล” เธอให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
คาเมรอน จะได้พบปะกับประธานาธิบดี โจโค วิโดโด และเลขาธิการอาเซียนที่กรุงจาการ์ตาในวันนี้(27) ก่อนจะออกเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ในวันอังคาร(28)