เกิดเหตุการณ์ยิงข้ามพรมแดนอินเดียและปากีสถานจากกองกำลังทหารทั้งสองประเทศด้วยกระสุนปืนใหญ่ตอบโต้บริเวณพรมแดนในบริเวณแคชเมียร์ที่มีประชาชนมุสลิมอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นทั้งสองฝั่ง และทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตในฝั่งอินเดียไม่ต่ำกว่า 6 ราย และในฝั่งปากีสถานอีก 2 ราย และทำให้กระทรวงต่างประเทศอินเดียต้องเรียกเอกอัคราชทูตปากีสถานประจำกรุงนิวเดลีเข้าพบในวันอาทิตย์(16)เพื่อประท้วงในเหตุการณ์ปะทะล่าสุดที่ทำให้ประชาชนอินเดียต้องจบชีวิต
อัลญาซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานเมื่อวานนี้(16) ว่า มีหญิงอินเดียหนึ่งรายต้องจบชีวิตเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ทำให้ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตในฝั่งอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 6 ราย
ในขณะที่สื่อปากีสถานรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตในฝั่งตนว่ามีจำนวน 2 ราย และอีก 6 คนได้รับบาดเจ็บ
และพบว่าการยิงตอบโต้ข้ามพรมแดนระหว่างทหารกองทัพอินเดีย และกองกำลังทหารกองทัพปากีสถานตลอดชั่วข้ามคืนวันเสาร์(15)มาถึงเช้าวันอาทิตย์(16) ซึ่งเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันที่กองกำลังทั้งสองชาติต่างสาดกระสุนปืนใหญ่ใส่กัน และทั้งอินเดียและปากีสถานต่างฉลองครบรอบการได้รับเอกราชจากอังกฤษเป็นปีที่ 69 ในวันศุกร์(14)และวันเสาร์(15)ตามลำดับ
และก่อนหน้านี้ แดนิช รานา (Danish Rana) จเรตำรวจอินเดียได้ให้ข้อมูลว่า ชาวอินเดียเสียชีวิต 3 รายเกิดจากการยิงข้ามพรมแดนของกองกำลังปากีสถานในเขตBalakote แคชเมียร์ในฝั่งอินเดีย ในวันเสาร์(15) และมีรายงานว่า ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รวมอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต
และรานายังให้ข้อมูลเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการยิงข้ามพรมแดนไม่ต่ำกว่า 20 คนในที่ต่างในเขตแคชเมียร์ และมี 6 คนจากทั้งหมดต้องถูกเคลื่อนย้ายทางอากาศไปยังจัมมู ซิตี เพื่อการรักษา
ส่วนในฝั่งปากีสถาน อัดนาน คูร์ชิด (Adnan Khurshid) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองKotliได้ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า มีชายสูงอายุชาวปากีสถานถูกสังหารใกล้กับเขต Nakyalในวันเสาร์(15)
และนาซากัต ฮุสเซน ( Nazakat Hussain) เจ้าหน้าที่เมืองKotliอีกรายได้เปิดเผยว่า ชายชาวปากีสถานชื่อโมฮัมเหม็ด ชาห์ปาล(Mohammed Shahpal )เสียชีวิตด้วยทนพิษบาดแผลไม่ไหวในโรงพยาบาลที่ได้เข้ารับการรักษา
อัลญาซีเราะฮ์รายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งฝ่ายอินเดียและปากีสถานต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นผู้ปะทุความรุนแรง
สื่อกาตาร์รายงานว่า เขตแคชเมียร์นั้นมีประชากรชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ และได้ถูกแบ่งภายใต้การปกครองทั้งในส่วนของอินเดีย และปากีสถาน แต่ทว่าทั้งสองชาติกลับอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองพื้นที่ทั้งหมดนับตั้งแต่อินเดียและปากีสถานได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1947
ทั้งนี้โฆษกกองทัพอินเดียได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดถึงสถานการณ์ปะทะบริเวณพรมแดนติดทั้งสองประเทศว่า กองกำลังปากีสถานเป็นผู้เริ่มยิงปืนใหญ่และสาดกระสุนเข้ามาในฝั่งอินเดียก่อน
ส่วนในฝั่งกองทัพปากีสถานได้ออกแถลงการณ์เช่นเดียวกัน กล่าวตำหนิที่ได้ยิงกระสุนข้ามพรมแดนเข้าไปในฝั่งปากีสถาน แต่ทหารที่ตรึงกำลังในบริเวณนั้นสามารถตอบโต้กลับได้อย่างทันที
และหลังจากที่มีการปะทะเกิดขึ้นทำให้ในวันอาทิตย์(16)กระทรวงการต่างประเทศอินเดียได้เรียกเอกอัคราชทูตปากีสถานประจำกรุงนิวเดลีเข้าพบเพื่อยื่นหนังสือประท้วงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เอเอฟพีรายงาน
ทั้งนี้ในแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศอินเดียกล่าวว่า “ทางเราได้ทำการยื่นประท้วง เพื่อแสดงความรู้สึกไม่พอใจในการเริ่มต้นยิงข้ามพรมแดนของกองกำลังปากีสถานที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคมเป็นต้นมา รวมไปถึงการระบุเป้าหมายโจมตีอย่างมีระบบไปที่พลเมืองชาวอินเดีย”
ในขณะเดียวกัน อับดุล บาซิต (Abdul Basit)ผู้แทนทางการทูตของปากีสถานประจำอินเดีย ที่ได้ถูกเรียกตัวไปรับหนังสือร้องเรียนได้ให้สัมภาษณ์ที่ด้านหน้ากระทรวงการต่างประเทศอินเดียในกรุงนิวเดลีถึงกองกำลังอินเดียก่อเหตุยิงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาว่า “ มีการละเมิดสัญญาหยุดยิงถึง 70 ครั้งออกมาจากฝั่งทางนี้ของเส้นควบคุม LoC (Line of Control) และรวมไปถึงอาณาเขตปฎิบัติงาน”
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า การยิงปะทะข้ามพรมแดนของกองกำลังทั้งสองประเทศเริ่มต้นอีกครั้งในวันอาทิตย์(16)ในเขต Poonch หลังจากมีมาตลอดทั้งคืนวันเสาร์(15)ห่างจากเมืองศรีนาการ์ (Srinagar)ไปทางใต้ราว 320 กม. โฆษกกระทรวงกลาโหมอินเดียแถลง
ขอบคุณ ASTV