ผบ.ตร.ให้น้ำหนักทุกประเด็นเหตุบึ้มแยกราชประสงค์ ยังไม่ปักใจเชื่อชายเสื้อเหลืองสะพายเป้ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดเป็นชาวต่างชาติ ชี้อาจตกแต่งใบหน้าตบตาเจ้าหน้าที่ และอาจมีคนอื่นร่วมลงมือ วอนมอเตอร์ไซค์รับจ้างผู้รับส่ง รีบมาให้ข้อมูล ย้ำขณะนี้ยังไม่ควบคุมตัวใครมาสอบ ขอเวลาสักระยะ แต่คงไม่ถึงขั้นปิดประเทศล่าตัว
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับฝ่ายความมั่นคงกรณีเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อประเมินสถานการณ์เหตุการณ์ระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อกำหนดแนวทางและวิธีปฏิบัติหลังจากนี้ โดย พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยประชุมหารือกำหนดแนวทางให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งได้พูดคุยหารือถึงมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่จะสามารถดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติและประชาชนได้
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า โดยที่ประชุมได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจ สนธิกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบดำเนินการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธและบุคคลต้องสงสัยมากขึ้น เพื่อเฝ้าระวังและเพิ่มความมั่นใจแก่ประชาชน ขณะที่ความคืบหน้าทางการสืบสวนสอบสวนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกล้องวงจรปิดในบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ พบบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ที่นำระเบิดมาวางหรือไม่ ซึ่งต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนต่อไป ตำรวจอยากขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนที่ผ่านไปมาช่วงเวลาที่เกิด หากท่านใดสามารถถ่ายภาพมุมใดก็แล้วแต่ ถ้าเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการสืบหาติดตามตัวคนร้าย ขอให้ประสานหรือส่งมอบให้เจ้าหน้าที่โดยด่วน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสืบสวนต่อไป ขอให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
ทั้งนี้ จากภาพชายเสื้อเหลืองที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้น อาจมีการแปลงใบหน้า หรือตกแต่งหน้าตาเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดหรือหลงทาง ดังนั้น ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อตามภาพที่ปรากฏตามกล้องแต่อย่างใด นอกจากนี้ อยากประกาศผ่านสื่อมวลชนไปยังผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่รับชายคนดังกล่าวจากบริเวณซอยมหาดเล็กหลวง ไปยังบริเวณถนนสีลม หากท่านได้ทราบข่าวจากสื่อแล้ว ขอให้ท่านรีบมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ข้อมูลเบาะแสเพื่อสืบหาตัวคนร้าย ท่านต้องรีบมาพบและร่วมเป็นผู้รับผิดชอบประเทศชาติร่วมกัน เพราะข้อมูลของท่านเป็นประโยชน์ที่จะนำไปสู่การจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้ โดยทางเจ้าหน้าที่จะปิดบังตัวท่านและดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้ขอความร่วมมือไปยังสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว ซึ่งเป็นภาพเชิงลบที่ทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย ขอความกรุณาใช้ดุลพินิจในการนำเสนอ โดยเฉพาะภาพที่จะสร้างความเสียหายต่อผู้เสียชีวิต เช่น ภาพอุจาดตาไม่เหมาะสม รวทั้งข่าวสารที่ส่งผลเชิงลบต่อประเทศ จึงขอความร่วมมือจากสื่อทุกสำนัก เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชน รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทย จึงขอให้คนไทยทุกคนร่วมมือกันเพื่อประเทศของเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจมุ่งไปที่ประเด็นใดเป็นพิเศษ ใช่ประเด็นการส่งชาวอุยกูร์ไปยังประเทศจีนหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ให้ความสำคัญทุกประเด็น และไม่ให้น้ำหนักประเด็นใดเป็นพิเศษ ทั้งนี้ จะเห็นจากภาพผู้ต้องสงสัยที่อาจมีการอำพรางใบหน้า ให้ดูเหมือนว่าเป็นชาวต่างชาติ ทางเจ้าหน้าที่จึงยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะฉะนั้นจะไม่ขอตอบคำถามกับสื่อมวลชนที่จะนำไปสู่การทำให้ประเทศเกิดความขัดแย้ง เพราะยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวคนร้าย ดังนั้น คำถามที่ไม่สร้างสรรค์ตนจะไม่ขอตอบ
ถามว่าการก่อเหตุครั้งนี้หลายฝ่ายมองว่าเป็นการกระทำของชาวต่างชาติ พล.ต.อ.สมยศ กล่าว่า ตนยังไม่เคยพูดว่าเป็นการกระทำของชาวต่างชาติ เพียงบอกว่าเจ้าหน้าที่ยังให้ความสำคัญทุกประเด็นเท่ากันหมด จนกว่าจะมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะระบุแน่ชัด หรือมีการจับกุมคนร้ายได้กระทั่งมั่นใจจึงจะบอกได้ว่าการก่อเหตุดังกล่าวมีสาเหตุมาจากอะไร แต่ตอนนี้ไม่อยากให้ด่วนสรุป เพราะจะเกิดความผิดพลาดได้ รวมถึงจะทำให้สื่อต่างชาตินำเรื่องไปขยายความจนประเทศเสียหายได้
ถามว่าชายต้องสงสัยที่พบในกล้องวงจรปิดมีเพียงคนเดียวใช่หรือไม่ ผบ.ตร. ตอบว่า อาจจะมีคนอื่นอีกก็ได้ แต่ในห้วงเวลาเกิดเหตุและใกล้เคียง ก็คือ ชายคนดังกล่าว อยากบอกผ่านไปถึงประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นและได้ถ่ายรูปขอได้โปรดช่วยส่งมาให้ตำรวจด้วย
ถามว่ามีความสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่เก็บได้ในจุดเกิดเหตุหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า พยานหลักฐานที่รวบรวมได้ในจุดเกิดเหตุ ยังไม่มีอะไรบ่งบอกได้ว่าเป็นชาวต่างชาติ อย่างที่เคยบอกแล้วว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เป็นการระเบิดโดยสมบูรณ์ ไม่เหลือแม้แต่พยานหลักฐานอะไรที่จะบ่งบอกได้ว่าระเบิดลูกนี้มีการผลิตอย่างไร รูปแบบอย่างไร แม้แต่ไอระเบิดที่จะนำไปตรวจสอบในเครื่องตรวจพิสูจน์ระเบิดก็ยังไม่สามารถบอกได้ ฉะนั้นอย่าเพิ่งสรุปในตอนนี้
ถามว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวชายต้องสงสัยคนดังกล่าวหรือยัง พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการสืบสวน ยังไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด ซักว่าขณะนี้ชายคนนี้คือคนเดียวที่สงสัย พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ขณะนี้ใช่ แต่อาจจะมีคนอื่นร่วมด้วย ซึ่งต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะตอนนี้มีเพียงคำบอกกล่าวว่าวันนั้นมีคนนั้นอยู่ตรงนั้น ต้องขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานและคัดกรองให้ชัดเจนก่อน ส่วนจะมีกี่ประเด็นนั้นเรื่องนี้ทางโฆษกรัฐบาลจะเป็นผู้แถลงในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากนั้นหากมีความคืบหน้าอย่างไร ทางโฆษกรัฐบาลก็จะแถลงเพิ่มเติม นอกจากนี้ ได้มีการพูดคุยว่าจะให้รัฐบาลเข้าไปดูแลเยียวยาคนเสียชีวิตคนเจ็บด้วยวิธีใดบ้าง ทั้งในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิ หรือกองทุนกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อกำหนดวิธีการต่อไป
ถามถึงประเด็นที่สังคมคิดกันไว้ทั้งประเด็นความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการส่งตัวชาวอุยกูร์ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ซักว่าได้รับแจ้งจากประเทศจีนถึงความไม่สงบหรือไม่ ผบ.ตร. ตอบว่า เจ้าหน้าที่ไทยได้ประสานข้อมูลกับทางการจีนตลอดเวลา ส่วนการขอกำลังเสริมที่สถานทูตจีนก่อนหน้านี้เป็นเพียงความต้องการกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อความมั่นใจ ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นความระแวดระวังของสถานทูตจีนเอง อย่างไรก็ดี ตอนนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากทางการจีนมาร่วมสอบสวนในเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด ยืนยันสถานการณ์ตอนนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมได้ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุระเบิดครั้งนี้มีทั้งชาวไทย มาเลเซีย บรูไน และชาวจีน หลายเชื้อชาติ จึงคาดการณ์ได้ว่าคนร้ายต้องการหวังผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตผู้คน เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนจำนวนมากเดินผ่านไปมา
ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ชาวต่างชาติจะก่อเหตุ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เรายังไม่ปักใจไปถึงตรงนั้น แต่การสร้างสถานการณ์นั้น คนร้ายคงไม่ต้องการให้รู้ที่มาที่ไป หรือต้นสายปลายเหตุว่าใครทำ หากเขาจะทำคงปกปิดตัวเองไม่อยากให้ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐสืบสวนติดตามจับกุมได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องรอพนักงานสอบสวนว่าจะสามารถออกหมายจับได้หรือไม่ เบื้องต้นหากมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ชัดเจน ก็อาจสามารถออกหมายจับตามภาพถ่ายได้ ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ และมีการเฝ้าระวังในเรื่องความมั่นคงอยู่ตลอด รวมทั้งการคัดกรองชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้เสนอเป็นข่าวเท่านั้น ส่วนจะมีใครเดินทางออกไปในช่วงนี้หรือไม่ตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่ ขณะที่ระเบิดนั้นทางเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นระเบิดชนิดทีเอ็นทีหรือระเบิดชนิดใด เพราะระเบิดทำงานโดยสมบูรณ์ไม่เหลือร่องรอยอะไรเลย
ถามว่าระเบิดแบบนี้เคยใช้ก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยส กล่าวว่า ตนยังไม่ยืนยัน แต่เท่าที่ถามจากเจ้าหน้าที่อีโอดีทราบว่าเคยถูกนำมาก่อเหตุในประเทศไทย ซักว่าชายคนดังกล่าวอยู่ในกรุงเทพฯ หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ตอบไม่ได้ ถามต่อว่าต้องถึงขั้นปิดประเทศหาตัวหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า คงไม่ต้องถึงขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูในกล้องวงจรปิดยังมีข้อสงสัยว่าเป็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาหรือไม่ หรือตกแต่งใบหน้าให้เราเข้าใจผิดไปในแนวทางใดทางหนึ่งหรือไม่ ส่วนจะเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุที่ซอยปรีดีพนมยงค์หรือไม่ ต้องรอผลการสอบสวน แต่มีการพูดถึงประเด็นเหล่านี้ ต้องเอารายละเอียดทางคดีเหล่านั้นมาเทียบเคียงเพื่อเป็นแนวทางสืบสวน ต้องดูหลักฐานจากกล้องก่อนและหลังเกิดเหตุหลายวัน ต้องย้อนไปย้อนมา หาความเชื่อมโยงต่อเนื่อง เป็นวินาที ไม่ใช่เฉพาะจุดที่เขาปรากฏกาย เพราะอาจมีคนมาร่วมก่อเหตุเดินไปมาด้วย ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลา
ขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นศูนย์สืบสวนสอบสวนคดีระเบิดที่แยกราชประสงค์ โดยรับผิดชอบด้านการทำสำนวนทั้งหมด ข้อมูลจากทุกหน่วยจะไปรวมอยู่ที่นั่น แต่ได้ให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้ดูแล ส่วนที่โรงพยาบาลต่าง ๆ ให้ พล.ต.อ.ชัยยง กีรติขจร ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นผู้ดูแล
ขอบคุณ ASTV