นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย ยืนยันวันนี้ (20 ส.ค.)ว่า รัฐบาลยังไม่มีแผนตรึงค่าเงินริงกิตกับดอลลาร์สหรัฐฯ หรือใช้มาตรการควบคุมเงินทุน หลังมีกระแสวิตกเกี่ยวกับภาวะอ่อนค่าของเงินริงกิต ตลอดจนปริมาณทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดลง
นาจิบ ซึ่งถูกสังคมเพ่งเล็งจากข่าวการพัวพันคดีทุจริตเงินกองทุน วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะประคับประคองสถานะผู้นำรัฐบาล ตลอดจนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังรุมเร้าแดนเสือเหลือง
“อัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยดูดซับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงินโลก” ผู้นำมาเลเซียแถลง
ริงกิตซึ่งเป็นสกุลเงินเอเชียที่ทรุดหนักสุดในปีนี้ และอ่อนค่าลงมาแล้วกว่า 17% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงทรงตัวหลังมีประกาศจากทางรัฐบาล และพลอยได้อานิสงส์จากเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
นาจิบ ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารกองทุน 1MDB ซึ่งมีหนี้สินล้นพ้นถึง 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกำลังถูกตรวจสอบเรื่องข้อครหารับสินบน และการบริหารการคลังที่ผิดพลาด
ผู้นำมาเลเซียวัย 62 ปี พยายามบรรเทามรสุมการเมืองด้วยการปลดรองนายกรัฐมนตรีที่เรียกร้องให้เขาออกมาอธิบายเรื่องกองทุนฉาว และยังสั่งเปลี่ยนตัวอัยการสูงสุดที่ทำคดี 1MDB ด้วย
อย่างไรก็ดี นาจิบ ยังถูกมองว่าไม่เอาใส่ต่อเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังย่ำแย่จากปัญหาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำทั่วโลก ตลอดจนอัตราการบริโภคในประเทศที่ลดลง
สัปดาห์นี้ นาจิบ ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้พบปะกับนักเศรษฐศาสตร์ทั้งในประเทศและจากสถาบันการเงินต่างชาติ โดยให้สัญญาผ่านเฟซบุ๊กว่า จะ “มีมาตรการบริหารเชิงรุกเพื่อนำพาเศรษฐกิจมาเลเซียให้ก้าวเดินไปข้างหน้า”
ขณะเดียวกัน เซตี อัคตาร์ อาซิซ ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย ระบุว่า แม้มูลค่าทุนสำรองระหว่างประเทศจะลดต่ำลง แต่ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล
“ทุนสำรองระหว่างประเทศเคยลดลงมาแล้วในอดีต แต่ไม่ต้องกังวล เพราะนั่นคือกลไกของมันซึ่งทำหน้าที่รับแรงปะทะในยามที่ตลาดเงินเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้” เธอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
ผู้ว่าการแบงก์ชาติมาเลเซียยังสนับสนุนคำพูดของนายกรัฐมนตรีที่ปฏิเสธแผนตรึงค่าเงินริงกิตกับดอลลาร์สหรัฐฯ
“เรายังไม่คิดที่จะปรับไปใช้มาตรการที่ยืดหยุ่นน้อยลงอย่างการตรึงอัตราแลกเปลี่ยน… การปล่อยค่าเงินยืดหยุ่นจะช่วยรักษาเสถียรภาพให้แก่ภาคส่วนอื่นๆในระบบเศรษฐกิจ”
จากข้อมูลเมื่อวันที่ 31 ก.ค. พบว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศของมาเลเซียลดต่ำกว่าระดับ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จนก่อให้เกิดคำถามว่า รัฐบาลกัวลาลัมเปอร์จะทำวิธีใดเพื่อปกป้องค่าเงินริงกิตซึ่งอ่อนแอที่สุดในกลุ่มสกุลเงินเอเชียในปีนี้ได้
ขอบคุณ ASTV