หนึ่งสัปดาห์หลังจากการประท้วงต่อต้านผู้ลี้ภัยปะทุกลายเป็นความรุนแรงในเมืองไฮเดนัว ประเทศเยอรมนี เมื่อวันเสาร์(29)ก็มีผู้ประท้วงหลายพันคนออกมาเดินขบวนสนับสนุนผู้ลี้ภัยในเมืองเดรสเดน ซึ่งอยู่ใกล้กัน โดยการประท้วงเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มขวาและกลุ่มคลั่งเชื้อชาติ ก่อเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในบริเวณนอกค่ายผู้ขอลี้ภัยในเมืองไฮเดนัว ชานเมืองทางตะวันออกของเยอรมนีเป็นเวลา 2 คืนติดต่อกัน ผู้ประท้วงบางคนกล่าวว่า มาเข้าร่วมการประท้วงตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องมนุษยธรรม
ทั้งนี้ ยุโรปกำลังพยายามอย่างหนักในการจัดการกับการหลั่งไหลของผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่หลบหนีความขัดแย้งในซีเรีย อิรักและอีกหลายประเทศในส่วนของเยอรมนี ซึ่งมีกฎหมายผู้ลี้ภัยเสรีมีกำหนดรับผู้อพยพจำนวนมากที่สุดในปีนี้ ประมาณ 800,000 คน ซึ่งเท่ากับเกือบร้อยละ 1 ของประชากรทั้งหมดในประเทศ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์(30)ว่าพวกเขาหวังว่าการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้อพยพที่พบเป็นศพ 71 ศพในรถบรรทุกที่จอดทิ้งไว้คันหนึ่ง จะสามารถคลี่คลายได้จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่พบอยู่กับศพในรถบรรทุกที่จอดอยู่บนถนนหลวงสายหนึ่ง จากฮังการีไปยังกรุงเวียนนาประเทศออสเตรียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
สำหรับรถบรรทุกคนดังกล่าว ยังคงถูกเก็บไว้ที่ศูนย์ศุลกากรในเมืองนิกเคลส์ดอร์ฟเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจชันสูตรศพ ซึ่งนายเฮลมุต มาร์บัน โฆษกตำรวจเมืองเบอร์เกนแลนด์ อธิบายถึงความสำคัญชองการพบโทรศัพท์มือถือของผู้อพยพที่เสียชีวิตว่า บางทีอาจช่วยให้เจ้าหน้าที่ตรวจหาเอกลักษณ์บุคคลได้ง่ายขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็หวังว่าจะทราบผลโดยเร็ว