แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมฮังการีระบุว่า ได้สร้างรั้วลวดหนามตามแนวพรมแดนติดกับเซอร์เบียช่วงแรกเป็นระยะทาง 175 กิโลเมตรเสร็จก่อนกำหนดเส้นตายในวันจันทร์ (31 ส.ค.) ขณะนี้มีตำรวจราว 1,000 นายประจำการอยู่และอีก 2,000 นาย จะมาประจำการเพิ่มในวันที่ 1 ก.ย. อย่างไรก็ตามสื่อต่างชาติรายงานว่า รั้วลวดหนามดังกล่าวไม่สามารถกั้นผู้อพยพที่ต้องการข้ามพรมแดนมายังฮังการีได้ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้อพยพจากเซอร์เบียมากกว่า 10,000 คน เดินทางข้ามคาบสมุทรบอลข่านมายังฮังการี เพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศในยุโรปตะวันตก อย่างเยอรมนี และสวีเดน
ด้านกระทรวงทางทะเลกรีซแถลงว่า เกิดเหตุยิงกันทางทะเลระหว่างตำรวจท่าเรือกรีซกับแก๊งค้ามนุษย์ที่เกาะไซมิ โดยเรือท่องเที่ยวพร้อมผู้อพยพ 70 คนจากเมืองท่าทางตะวันตกของตุรกีพยายามเข้าน่านน้ำกรีซโดยผิดกฎหมาย ทำให้ตำรวจท่าเรือกรีซและเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันแนวเขตแดนสหภาพยุโรป หรืออียูต้องเข้าสกัด จนเกิดการยิงปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ต้องสงสัยชาวตุรกี 3 คนที่คาดว่าเป็นแก๊งลักลอบอพยพคนเข้าเมือง ส่งผลให้มีผู้อพยพถูกกระสุนลูกหลงยิงเสียชีวิต 1 คน ขณะที่มีการสอบสวนการเสียชีวิตดังกล่าว ขณะที่ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนถูกจับกุมในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ นายคริสตอส โซอิส รัฐมนตรีทางทะเลกล่าวแสดงความเสียใจจากเหตุที่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่ชื่นชมการทำงานของตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการรับมือกับปัญหาผู้อพยพที่ยากลำบาก ขณะที่กรีซกำลังพยายามควบคุมการหลั่งไหลเข้ามาของผู้อพยพที่ต้องการลี้ภัยในยุโรปจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ ส่วนใหญ่เป็นผู้ลี้ภัยสงครามในตะวันออกกลางและเอเชีย โดยจนถึงตอนนี้ มีผู้อพยพขึ้นชายฝั่งของกรีซแล้วกว่า160,000คนแล้วในปีนี้