กบฏปะทะเดือดตำรวจในทาจิกิสถาน หวั่นบานปลายเป็น “สงครามกลางเมืองรอบใหม่”

เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธก่อเหตุโจมตีสถานีตำรวจและจุดตรวจ นอกกรุงดูชานเบ เมืองหลวงของทาจิกิสถานในวันเสาร์ ( 5 ก.ย.) เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ เป็นรายงานข่าวที่ถูกเผยแพร่โดยสื่อหลายสำนักของรัสเซีย ซึ่งอ้างแหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจของทาจิกิสถาน

เหตุโจมตีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตกเป็นเป้าสังหารดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังเกิดการปะทะกัน ระหว่างกลุ่มกบฏกับตำรวจรอบกรุงดูชานเบ และที่เมืองวาห์ดัตเป็นเหตุให้มีตำรวจเสียชีวิตอย่างน้อย 9 นาย และนักรบฝ่ายกบฏถูกสังหารไป 13 ราย ขณะที่คำแถลงของกระทรวงมหาดไทยทาจิกิสถานระบุว่า สามารถจับกุมนักรบฝ่ายกบฏได้อย่างน้อย 32 คน

รายงานข่าวระบุว่า ทางตำรวจทาจิกิสถานกำลังไล่ล่าตัว พลเอกอับดุลคาลิม มีร์โซ นาซาร์ซอด อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมที่ถูกปลด และถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังกองกำลังฝ่ายกบฏที่ออกก่อเหตุโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐตลอด 2 วันที่ผ่านมา

การปะทุขึ้นของเหตุรุนแรงระลอกล่าสุดได้เพิ่มความหวาดวิตกว่าทาจิกิสถาน ซึ่งเป็นอดีตดินแดนส่วนหนึ่งในสหภาพโซเวียตอาจหวนคืนสู่ยุคแห่งความวุ่นวายอีกครั้ง หลังจากที่รัฐเอเชียกลางซึ่งเป็นบ้านของประชากรมุสลิมราว 8 ล้านคนแห่งนี้เคยเผชิญกับภาวะสงครามกลางเมืองที่คร่าชีวิตประชาชนไปหลายหมื่นคนมาแล้วในช่วงระหว่างปี 1992 – 1997 ซึ่งเป็นการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างฝ่ายรัฐบาลซึ่งมีรัสเซียหนุนหลัง กับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์

อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากทางการรัสเซียซึ่งยังคงมีกำลังทหารกว่า 6,000 นายอยู่ในทาจิกิสถานและยังเป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญของรัฐบาลทาจิกิสถาน ภายใต้การนำของประธานาธิบดี อิโมมาลี รัคห์มอน ที่ครองอำนาจบริหารประเทศแบบผูกขาดมาตั้งแต่ปี 1992

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำแถลงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงในทาจิกิสถานใช้หลักสันติวิธีในการแก้ไขความขัดแย้ง ส่วนสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงดูชานเบประกาศปิดทำการไม่มีกำหนดด้วยเหตุผลด้านความไม่ปลอดภัย

ความคิดเห็น

comments