หลุมยักษ์ทะลุกลางสะพานหลวงแพ่ง ถนน 304 (สุวินทวงศ์)หลังฝนตกหนัก

ชาวบ้านผู้สัญจรผ่านถนนสุวินทวงศ์ 304 มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา ถึงกับผงะ หลังพบหลุมยักษ์กลางสะพานข้ามคลองความสูงกว่า 6 เมตร หลังพายุหว่ามก๋อทำฝนตกหนักในพื้นที่นานหลายวัน ล่าสุดแขวงการทางฉะเชิงเทรานำกรวยยางมาวางกั้นปิดแนวถนน บีบให้รถสัญจรผ่านได้เพียงช่องทางเดียว ด้านชาวบ้านวอนเจ้าหน้าที่รัฐพร้อมผู้รับเหมา ช่วยตรวจสอบด้านความปลอดภัย

วันนี้( 17 ก.ย. ) ผู้สื่อข่าว ASTV ได้เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุพื้นถนนสุวินทวงศ์ เส้นทางสำคัญออกจากกรุงเทพมหานคร สู่ภาคตะวันออก อีกเส้นทางหนึ่ง (มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา) หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่าพื้นสะพานได้ทรุดตัว และทะลุเป็นรูขนาดใหญ่ สร้างความหวาดเสียวต่อประชาชนที่กำลังสัญจรผ่านไปมา เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย หรืออาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นมาได้

โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณตะเข็บรอยต่อระหว่างอ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา และเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ช่องทางขาออกด้านซ้ายสุด อยู่บนกึ่งกลางสะพานข้ามคลองหลวงแพ่ง ซึ่งเป็นสะพานที่มีความยาวประมาณ 400 เมตร ห่างจากหลักกม.ที่ 50 ไปประมาณ 200 เมตร พื้นที่ม. 16 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว อยู่ในเขตความรับผิดชอบของแขวงการทางฉะเชิงเทรา

พบมีหลุมขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางสะพานแอ่งลึก กว้างประมาณ 1 เมตร ที่ก้นหลุมมองเห็นเป็นรูโหว่ลงไปยังด้านล่าง ที่ระดับความสูงจากพื้นประมาณ 6 เมตร มีเพียงโครงเหล็กเส้นรองรับไว้เท่านั้น ท่ามกลางความหวาดเสียวของชาวบ้านที่ได้พบเห็น และชาวบ้านที่มีบ้านเรือนพักอาศัยอยู่ที่ด้านล่างริมลำคลองใกล้กับแนวสะพาน

สอบถามนายวิทูรย์ ฉุนตู่ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/158 ม.6 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา คนขับรถสองแถว สายคลองหลวงแพ่ง-ฉะเชิงเทรา ที่จอดรอเข้าคิวจากต้นทาง บริเวณใต้สะพานแห่งนี้เล่าว่า รูโหว่ตรงกลางสะพานเห็นตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากเกิดพายุฝนตกหนัก 2-3 วันแล้ว เกรงว่าชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงและคนที่อยู่ใต้สะพาน รวมถึงผู้คนที่กำลังใช้ถนนสัญจรผ่าน จะไม่ปลอดภัย หากสะพานเกิดพังถล่มลงมา หรือพื้นสะพานเสียหายมากกว่านี้

เชื่อว่าสะพานด้านฝั่งขาออกกทม.แห่งนี้ อาจจะสร้างไม่ได้มาตรฐาน จนทำให้พื้นทะลุ มีรูรั่วหลายแห่งเป็นจำนวนมาก จนมีน้ำฝนไหลรั่วซึมลงมายังด้านล่างอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะที่บริเวณตอม่อใต้สะพานทุกตอม่อ จะมีน้ำไหลรั่วลงมาอยู่ตลอดเวลา และหากเปรียบเทียบกับสะพานของถนนสายเก่าเส้นเดิม ที่สร้างมานานแล้วด้านฝั่งขาเข้ากทม.นั้น มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนมาก โดยที่บริเวณใต้สะพานไม่มีร่องรอยของน้ำรั่วซึมลงมาเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสะพานแห่งนี้เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จมาได้ไม่นาน เพื่อรองรับการขยายถนน เพียงประมาณ 1 ปีเท่านั้น

ด้านนายชาลี เพชรนิยม อายุ 51 ปี ชาวบ้าน ม.16 ต.ศาลาแดง ที่มีบ้านอยู่ริมคลองใกล้กับแนวสะพาน กล่าวว่า สังเกตเห็นรอยร้าวของแผ่นคอนกรีตที่ผู้รับเหมานำมาวางเรียงเป็นฐานรองพื้นถนน ก่อนลาดยางทับด้านบนมานานแล้ว ซึ่งเชื่อว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน เพราะเป็นเพียงแผ่นคอนกรีตบางๆ ที่ชาวบ้านหรือผู้รับเหมาก่อสร้างนำมาใช้วางเป็นพื้นห้องก่อนเทปูนทับเท่านั้น แต่บนสะพานมีรถบรรทุกหนักขับผ่านตลอดทั้งคืนทั้งวัน

จึงอยากขอให้ทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และผู้รับเหมาได้เข้ามาช่วยดูแลด้านความปลอดภัยด้วย เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อชาวบ้านและผู้ที่กำลังสัญจรผ่านไปมา โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ที่คนใช้ถนนมองไม่เห็นเส้นทางที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่แขวงการทางฉะเชิงเทรา ได้นำกรวยยางมาวางปิดกั้นช่องทางการจราจรบนช่องทางด้านซ้ายสุดของถนน เพื่อไม่ให้รถยนต์ขับผ่านตรงบริเวณจุดเกิดเหตุ

 

ความคิดเห็น

comments