ผลการศึกษาล่าสุดระบุ จำนวนสัตว์ทะเลทั่วโลกลดลงกว่าครึ่งในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา หวั่นส่งผลกระทบรุนแรงต่อแหล่งอาหารของมนุษยชาติ
ผลการศึกษาล่าสุดภายใต้ชื่อ “Living Blue Planet” ซึ่งจัดทำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์กรด้านการอนุรักษ์ชื่อดังอย่าง “WWF” ที่มีฐานอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า ปัญหาการจับสัตว์ทะเลที่มากล้นเกินไปของธุรกิจประมง ปัญหามลพิษ และปัญหาที่เป็นผลพวงจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลก คือ 3 ต้นตอสำคัญ ที่ส่งผลทำให้จำนวนประชากรสัตว์ทะเลทุกประเภท ลดจำนวนลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ตลอดระยะเวลา 40 ปี ระหว่างปี ค.ศ. 1970 – 2010
รายงานล่าสุดขององค์กรด้านการอนุรักษ์ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1961 แห่งนี้ ยังเตือนว่า ห่วงโซ่อาหารของมนุษย์จะได้รับผลกระทบอย่างหนักหนาสาหัสที่สุดในอนาคตจากปัญหาการลดจำนวนลงของสัตว์ทะเล โดยเฉพาะ “ปลา” ซึ่งมีจำนวนลดลงมากที่สุดในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ในบรรดาสัตว์ทะเลทั้งหมด 1,234 ชนิด ที่ทีมผู้เชี่ยวชาญของ WWF ทำการสำรวจจากน่านน้ำต่าง ๆ ทั่วโลก
นอกเหนือจากการลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วของสัตว์ทะเลที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในฐานะแหล่งอาหารของมนุษย์แล้ว รายงานล่าสุดของ WWF ยังระบุว่า แนวปะการังทั่วโลกซึ่งเป็นที่อยู่และแหล่งอาหารของสัตว์ทะเลราว 1 ใน 3 ก็กำลังถูกคุกคามอย่างหนักเช่นกัน โดยเฉพาะจากกิจกรรมของมนุษย์ทั้งการท่องเที่ยวและการประมง และว่าการถูกทำลายของแนวปะการังทั่วโลกจะส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายของวิถีชีวิตของประชากรโลกไม่น้อยกว่า 850 ล้านคน ที่ต้องพึ่งพาแนวปะการังในการยังชีพ
ทั้งนี้ ในตอนท้ายของรายงานฉบับนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญของ WWF ได้เรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก หันมาให้ความสำคัญกับการประกาศเขตอนุรักษ์ทางทะเลให้มากขึ้น เนื่องจากในเวลานี้ พื้นที่ทางทะเลที่ได้รับการปกป้องอย่างจริงจังมีสัดส่วนเพียง 3.4 เปอร์เซ็นต์ของน่านน้ำทั่วโลก