การปลุกกระแสต่อต้านอิสลามขึ้นอีกครั้งในสหรัฐอเมริกา ของผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 2 คนอย่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายเบน คาร์สัน ได้สร้างผลกระทบต่อชาวมุสลิมอย่างเลี่ยงไม่ได้ในสหรัฐ
โดยชาวอเมริกันผิวขาวกลุ่มหนึ่งได้โวยวายใส่แม่ลูกชาวมุสลิมหลายคู่ที่สถาบันอิสลามแห่งเทศมณฑลออเรนจ์ในรัฐแคลิฟอร์เนียในวันรำลึกเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 ที่ผ่านมาว่าไม่สมควรอยู่ในสหรัฐ ชาวมุสลิมในสหรัฐซึ่งมีประมาณ 2.8 ล้านคนเกรงว่าความตึงเครียดดังกล่าวจะยิ่งเลวร้ายลงอีกในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเช่นกรณีของนายคาร์สัน อดีตศัลยแพทย์ประสาทวัย 64 ปี ซึ่งมีคะแนนนิยมเป็นอันดับต้น ๆ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ชาวมุสลิมไม่เหมาะที่จะสมัครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ คณะหาเสียงแก้ต่างในวันต่อมาว่า เขาไม่ได้หมายความว่าควรห้ามชาวมุสลิมลงเลือกตั้งประธานาธิบดีแต่เขาจะไม่สนับสนุนให้ชาวมุสลิมเป็นประธานาธิบดี
ส่วนนายทรัมป์ มหาเศรษฐีวัย 69 ปี ไม่ยอมแก้ไขใด ๆ เมื่อผู้สนับสนุนคนหนึ่งของเขากล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า “เรากำลังมีปัญหาอย่างหนึ่ง นั่นคือคนมุสลิม” และกล่าวหาว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาเป็นมุสลิม โดยทรัมป์อ้างเรื่องใหญ่กว่านั้นคือโอบามากำลังทำสงครามกับคริสตชนในประเทศ คริสตชนอเมริกันต้องการการสนับสนุนและเสรีภาพของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย