กองทัพรัฐบาลชีอะห์แห่งซีเรียยิงขีปนาวุธเข้าสู่ชุมชนมุสลิมภายใต้การดูแลของฝ่ายต่อต้านซีเรียในเมืองฮอมส์ทางภาคกลางของซีเรีย คร่าชีวิตผู้คนไป 17 ศพ รวมทั้งเด็ก และสตรี
ผู้เสียชีวิตจากการโจมตีเมื่อวันเสาร์ (26 กันยายน) รวมถึงเด็ก 4 คนและผู้หญิง 4 คน กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Right) ระบุ
เมืองฮอมส์เกือบทั้งเมืองอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล นับตั้งแต่ที่นักรบฝ่ายต่อต้านถอนกำลังออกจากศูนย์ทางประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ภายใต้ข้อตกลงที่มีองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เป็นคนกลางเพื่อยุติการปิดล้อมและเปิดทางให้กองกำลังรัฐบาลชีอะห์แห่งซีเรียส่งกำลังเข้ามาแทนที่
มีความพยายามหลายครั้งที่จะจัดให้มีข้อตกลงเช่นเดียวกันนี้สำหรับชุมชนวาเออร์ ที่ซึ่งพลเรือนกว่า 100,000 คนใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การคุ้มกันของฝ่ายต่อต้านที่ถูกโอบล้อมโดยกองกำลังชีอะห์
การหยุดยิงชั่วคราวได้ถูกจัดให้มีขึ้นหลายต่อหลายครั้งเพื่อที่จะจัดสรรความช่วยเหลือเข้าไป แต่ข้อตกลงแบบยั่งยืนเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าคาดหวังไม่ได้ โดยทั้งสองฝ่ายต่างโทษอีกฝ่ายว่าขัดขวางการเจรจา
การโจมตีด้วยขีปนาวุธใส่ชุมชนดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ข้อตกลงที่มียูเอ็นเป็นคนกลางฉบับหนึ่งที่จะทำการอพยพพลเรือน 10,000 คนจากหมู่บ้านฝักใฝ่อัซซาด 2 แห่งในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียซึ่งถูกฝ่ายต่อต้านโอบล้อมอยู่ได้ประสบกับปัญหาเมื่อวันเสาร์ (26)
ผู้ประท้วงในดินแดนข้างเคียงในจังหวัดอิดลิบได้ขวางกั้นถนน เพื่อยับยั้งไม่ให้แผนการอพยพของสภากาชาดเริ่มเดินหน้าได้
กลุ่มกบฏซึ่งปิดล้อมเมืองฟูอาและเมืองคาฟรายามาเป็นเวลา 2 เดือนตกลงที่จะเปิดทางให้ทำการอพยพพวกเขาแลกกับการเปิดทางให้นักรบฝ่ายต่อต้านราว 600 คนที่ถูกกองกำลังรัฐบาลโอบล้อมในเมืองซาบาดานีใกล้พรมแดนเลบานอน
เมืองฮอมส์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของซีเรียเป็นหนึ่งในสถานที่แรกๆ ที่ชาวซีเรียจับอาวุธขึ้นต่อต้านการปกครองของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ในปี 2011
นอกจากนี้เหมืองดังกล่าวยังเป็นเมืองที่ถูกเปิดเผยว่าพบการเคลื่อนไหวของทหารรัสเซียในเมืองนี้ด้วย
