ทางการจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซียเริ่มต้นการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้รับอนุญาตดัดแปลงเป็นโบสถ์คริสต์เล็กๆ หลายแห่งกระจายตัวในพื้นที่ในวันจันทร์ (19 ตุลาคม) หลังจากมีประชาชนในพื้นที่ต้องเรียน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมดำเนินการจนเกิดการปะทะกันขึ้นทำให้ชาวมุสลิม 1 คนถูกชาวคริสต์ยิงเสียชีวิต
ความตึงเครียดกำลังพุ่งสูงในหมู่ประชากรในเขตอาเจะห์ซิงคิลที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนา ซึ่งเกิดความขัดแย้งหลังมีการลักลอบสร้างโบสถ์โดยไม่ขออนุญาตก่อสร้างตามกฏหมาย จนเกิดปะทะกับชาวอาเจะห์ท้องถิ่นที่พยายามรื้อโบสถ์ดังกล่าว ทำให้ชาวมุสลิมอาเจะห์คนหนึ่งถูกชาวคริสต์ยิงเสียชีวิต ทำให้ชาวคริสต์หลายพันต้องหลบหนีออกจากพื้นที่ดังกล่าว กองกำลังตำรวจและทหารได้ถูส่งไปยังพื้นที่ดังกล่าวและผู้อพยพหลบหนีได้กลับมาแล้ว
ตำรวจในเขตอาเจะห์ซิงคิลใช้ค้อนปอนด์และขวานทุบทำลายโบสถ์ไม้เล็กๆ หลายแห่ง ที่ก่อสร้างอย่างผิดกฏหมาย ในขณะที่สมาชิกชาวคริสต์ได้แต่ยืนมอง
“ไม่ว่าเราจะรับได้หรือไม่ก็ตาม เราจะทำตามนี้” ไปมา บรูตู วัย 35 ปี ผู้ดูแลหนึ่งในโบสถ์โปรเตสแตนท์ที่ถูกปิด กล่าวพร้อมเสริมว่าโบสถ์แห่งนี้มีสมาชิกราว 100 คน
“เราได้ยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างไปหลายครั้งแล้ว ดังนั้นตอนนี้อย่างเดียวที่เรากำลังร้องขอจากรัฐบาลคือออกใบอนุญาตดังกล่าวให้กับเรา” เขากล่าว
การปิดโบสถ์มีขึ้นหลังจากการประชุมของบุคคลสำคัญทางศาสานาและนักการเมืองท้องถิ่น ร่วมกับชาวคริสต์ เมื่อวันอาทิตย์ (18 ตุลาคม) ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องที่จะปิดสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวระบุ
กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “แนวหน้าผู้ปกป้องอิสลาม” (Islamic Defenders Front) ได้เรียกร้องให้ปิดโบสถ์ 10 แห่งที่ก่อสร้างขึ้นอย่างผิดกฎหมาย
“ตามปกติแล้วชุมชนแห่งนี้อยู่กันอย่างสงบสุขและไม่มีการกดดันให้ปิดโบสถ์เหล่านี้” เกนตี บรูตู หัวหน้าของหมู่บ้านซิออมปินในเขตอาเจะห์ซิงคิล ซึ่งมีโบสถ์ที่ก่อสร้างอย่างผิดกฏหมายอย่างน้อย 3 แห่งกล่าว
“แต่สิ่งที่เราได้รับการบอกกล่าวเป็นเรื่องของใบอนุญาต ดังนั้นเราต้องปฏิบัติตามกฎหมาย”
รถหุ้มเกราะรักษาความปลอดภัยหลายสิบคันแล่นตรวจการณ์ตามถนนของหมู่บ้านกระจุกหนึ่ง ซึ่งมีโบสถ์ที่ก่อสร้างโดยผิดกฎหมายอย่างน้อย 10 แห่งติดรายชื่อที่จะถูกรื้อถอนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
