ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน บรรลุข้อตกลงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ภาคพลังงานนิวเคลียร์ในอังกฤษ ระหว่างการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน หวังดึงดูดระลอกคลื่นการลงทุุนจากเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลกแห่งนี้
1 วันหลังจากพิธีต้อนรับอันโอ่อ่าสง่างาม ในวันพุธ(21ต.ค.) ประธานาธิบดีสี ผันตัวจากพิธีแห่แหนเข้าสู่โหมดของการเจรจาหารือเพื่อทำข้อตกลงหลายฉบับรวมเป็นมูลค่าถึง 46,000 ล้านดอลลาร์กับนายคาเมรอน ณ บ้านพักนายกรัฐมนตรี ถนนดาวนิ่ง ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ลงนามในข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งประวัติศาสตร์
ในการลงทุนครั้งใหญ่หนแรกในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ชาติตะวันตกของจีน ทาง เจเนอรัล นิวเคลียร์ คอร์เปอเรชัน รัฐวิสาหกิจด้านสาธารณูปโภคของจีน จะเข้าถือหุ้น 1 ใน 3 หรือราว 18,000 ล้านดอลลาร์ ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฮิงค์ลีย์ พอยต์ ในซัมเมอร์เซ็ต มูลค่า 37,800 ล้านดอลลาร์ ที่เป็นของ อีดีเอฟ จากฝรั่งเศส
นอกจากนี้แล้ว เจเนอรัล นิวเคลียร์ คอร์เปอเรชัน จะเข้าถือหุ้น 1 ใน 3 ของโรงงานนิวเคลียร์ในแบรดเวลล์ ทางตะวันออกของลอนดอน ซึ่งมีแผนก่อสร้างโดยใช้เตาปฏิกรณ์ที่ออกแบบจากจีน และถือหุ้น 1 ใน 5 ของโครงการเตาปฏิกรณ์ที่ออกแบบโดยอารีวา ณ โรงไฟฟ้าไซซ์เวลล์
“เราจะสร้างโลก หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างประเทศของเราในศตวรรษที่ 21 และร่วมเปิดยุคทองไปด้วยกัน” สีบอกกับผู้สื่อข่าวผ่านล่าม พร้อมระบุว่าข้อตกลงนิวเคลียร์เป็นการลงทุนตามนโยบายรัฐบาล
จนถึงตอนนี้มีผู้ประท้วงต่อต้านผู้นำคอมมิวนิสต์บนท้องถนนเพียงเล็กน้อย แม้เหล่านักเคลื่อนไหวกล่าวหานายคาเมรอนปล่อยให้เงินบังตากระทั่งยอมละเลยปัญหาสิทธิมนุษยชนในจีน รวมถึงปัญหาในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าของอังกฤษที่ต้องปลดคนงานนับพัน ซึ่งส่วนหนึ่งเนื่องจากเหล็กกล้าราคาถูกของจีน
เจ้าหน้าที่อังกฤษและเหล่านักธุรกิจบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเพิกเฉยการผงาดขึ้นมาของจีน เนื่องจากเศรษฐกิจของแดนมังกรมีขนาดใหญ่กว่าของอังกฤษถึง 4 เท่า
เมื่อผู้สื่อข่าวบีบีซีถามว่าอังกฤษควรยินดีกับการทำธุรกิจกับประเทศไม่เป็นประชาธิปไตยที่มีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนหรือไม่ นายคาเมรอนตอบกลับว่าความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญ “ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นขึ้นระหว่างเรา จะช่วยให้เราสามารถหารืออย่างตรงไปตรงมาในประเด็นอื่นๆมากขึ้น” พร้อมเผยว่าเขาได้หยิบยกประเด็นอุปทานเหล็กจีนล้นตลาดมาหารือ หลังจากตำแหน่งงานกว่า 4,000 อัตรา ณ โรงงานเหล็กต่างๆทั่วอังกฤษ เข้าสู่ภาวะอันตรายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านนายสี บอกว่าจีนได้ใช้มาตรการต่างๆสำหรับลดปริมาณเหล็กและให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการปกป้องสิทธิมนุษยชน “ลองมองไปทั่วโลกดูซิ มันมีลู่ทางให้พัฒนาขึ้นอยู่เสมอ” เขากล่าวถึงประเด็นสิทธิมนุษยชน ก่อนบอกกับเหล่านักธุรกิจ ให้คำรับประกันว่าเศรษฐกิจจีนจะไม่ทิ้งดิ่ง( hard landing) อย่างแน่นอน “เศรษฐกิจจีนจะรักษาแนวโน้มที่แข็งแกร่งเอาไว้ จะไม่มีการทิ้งดิ่งแน่นอน”
ก่อนหน้านี้รัฐบาลอังกฤษแถลงว่า ระหว่างการเยือนเป็นเวลา 4 วันของสี จะมีการลงนามข้อตกลงต่างๆ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 46,400 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้รวมถึงการตกลงร่วมพัฒนาโครงการในจีนและประเทศอื่นๆ ระหว่างบีพี บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่แดนผู้ดี กับไชน่า เนชันแนล ปิโตรเลียม คอร์เปอเรชันของทางการปักกิ่ง และข้อตกลงระหว่างแอชตัน มาร์ติน กับไชน่า อิควิตี้ ในการพัฒนารถสปอร์ตที่มีไอเสียต่ำ รวมทั้งการเปิดพิพิธภัณฑ์การออกแบบในเซินเจิ้น โดยพิพิธภัณฑ์วิกตอเรีย แอนด์ อัลเบิร์ต
ไม่มีการให้ตัวเลขรวมในการลงทุนภาคนิวเคลียร์ของจีน แต่อังกฤษบอกก่อนหน้าการมาเยือนว่าบรรลุข้อตกลงในสัญญามูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านปอนด์ และข้อตกลงนี้ทำให้ อังกฤษ ขยับเข้าใกล้การมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1995 และเกื้อหนุนบริษัทอีดีเอฟ ซึ่งได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่สูงกว่างบประมาณหลายพันล้านยูโรและทำให้โครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งในฟินแลนด์และฝรั่งเศสต้องล่าช้า
แนวโน้มที่จีน กำลังช่วยสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หนึ่งแห่งในอังกฤษและเข้ามาเกี่ยวข้องด้านการบริหารในแห่งอื่นๆ ได้กระพือความกังวลด้านความมั่นคง ด้วยชาติตะวันตกเคยกล่าวหาปักกิ่งว่าเป็นผู้สนับสนุนพวกแฮกเกอร์เจาะข้อมูลบริษัทต่างๆทั่วโลก
สตีฟ ฮิลตัน อดีตที่ปรึกษาทางนโยบายของนายคาเมรอน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า อังกฤษควรกำหนดมาตรการคว่ำบาตรจีนต่อการกดขี่ทางการเมืองและโจมตีทางไซเบอร์ แทนการปูพรหมแดงต้อนรับนายสีเช่นนี้