The Metrojet's Airbus A-321 with registration number EI-ETJ that crashed in Egypt's Sinai peninsula, is seen in this picture taken in Antalya, Turkey September 17, 2015. REUTERS/Kim Philipp Piskol

กลุ่มติดอาวุธในอียิปต์ที่ประกาศตัวให้สัตยาบัญต่อกลุ่ม ISIL ออกมาอ้างความรับผิดชอบว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง การตกของเครื่องบินโดยสารรัสเซียในเขตคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ในวันเสาร์ (31 ตุลาคม) ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของอียิปต์ ยืนยันโดยอ้างผลการสืบสวนเบื้องต้นว่า เหตุตกเกิดจากปัญหาทางเทคนิค

รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นในอียิปต์ ที่ประกาศตัวให้สัตยาบัญต่อกลุ่ม ISIL เผยแพร่คำแถลงที่ในเวลาต่อมามีการส่งผ่านต่อ ๆ กันใน “ทวิตเตอร์” โดยบรรดาผู้สนับสนุนของตน โดยคำแถลงดังกล่าวเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของที่มีชื่อว่า “อามัก” สำนักข่าวกึ่งทางการ ของกลุ่ม ISIL อ้างว่า กลุ่มของตนอยู่เบื้องหลังการตกที่คาบสมุทรไซนาย ของเครื่องบินโดยสารแอร์บัส A321 ของสายการบินเมโทรเจ๊ตของรัสเซีย เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 224 ชีวิตบนเครื่องเสียชีวิตยกลำในวันเสาร์ (31 ตุลาคม)

“นักรบของกลุ่มสามารถสอยเครื่องบินลำหนึ่งของรัสเซีย ที่บินอยู่เหนือจังหวัดไซนาย โดยมีผู้รุกรานชาวรัสเซียมากกว่า 220 รายอยู่บนเครื่องบินลำนี้ ซึ่งทั้งหมดได้เสียชีวิตแล้ว” เนื้อหาส่วนหนึ่งของคำแถลงฯ ที่มีการแพร่กระจายผ่านทางทวิตเตอร์ ระบุ พร้อมอ้างว่า การกระทำล่าสุดนี้ เป็นการตอบโต้ที่ทางการรัสเซียเปิดการโจมตีทางอากาศ ต่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียซึ่งรวมถึงกลุ่ม ISIL ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่คาบสมุทรไซนาย เปิดเผยโดยอ้างผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากจุดที่เครื่องบินตกว่า การตกของเครื่องบินโดยสารของรัสเซียในคาบสมุทรไซนายของอียิปต์มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาข้อผิดพลาดทางด้านเทคนิค ที่ทำให้เครื่องบินพุ่งลงในแนวดิ่ง ก่อนตกกระแทกพื้น และทำให้เครื่องบินถูกเพลิงไหม้เกือบทั้งลำ

ขณะเดียวกัน รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวยังระบุว่า ทีมกู้ภัยชุดแรก ๆ ที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างของผู้เสียชีวิตกว่า 150 ร่าง ซึ่งรวมถึงศพที่ถูกเผาจนไหม้เกรียม กระจัดกระจายอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร จากจุดที่พบซากเครื่องบินตก

ทั้งนี้ เครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวเป็นของสายการบินโกกาลีมาเวียของรัสเซีย แต่ถูกนำมาให้บริการภายใต้ชื่อเมโทรเจ๊ต โดยเที่ยวบินที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ถูกระบุว่า มีเส้นทางบินจากเมืองตากอากาศริมฝั่งทะเลแดง ชาร์ม อัล-ชีคห์ บนคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ ไปยังปลายทางที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในรัสเซีย

สำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซีย อ้างโฆษกคณะกรรมการสืบสวนของทางการรัสเซียในวันเสาร์ (31) ระบุว่า กำลังตรวจสอบ “ตัวอย่างเชื้อเพลิง”ของเครื่องบินโดยสารลำดังกล่าว จากจุดที่มีการเติมเชื้อเพลิงครั้งสุดท้าย นั่นคือที่เมืองซามาราของรัสเซีย

โดยรายงานซึ่งอ้างวลาดิมีร์ มาร์กิน โฆษกของคณะกรรมการสืบสวนของรัสเซียระบุว่า ทีมสืบสวนได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง กับการตรวจเช็คความพร้อมของเครื่องบินลำดังกล่าวและลูกเรือ ตลอดจน การค้นหาเบาะแสที่อาจเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ จากสนามบินโดโมเดโดโวในกรุงมอสโก ที่สายการบินดังกล่าวใช้เป็นฐานด้วยเช่นกัน

ด้านสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงไคโรของอียิปต์ เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของอียิปต์ว่า นักบินที่ควบคุมเครื่องบินโดยสารลำนี้ พยายามนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินอัล-อาริช ก่อนที่เครื่องจะตกไม่นาน

ความคิดเห็น

comments

By admin