พรรคยุติธรรมและการพัฒนา (AKP) ของนายกรัฐมนตรีอะหมัด ดาวูโตกูล แห่งตุรกี คว้าชัยชนะถล่มทลายในศึกเลือกตั้งรัฐสภาครั้งที่ 2 ในรอบ 5 เดือนเมื่อวันอาทิตย์ (1 พฤศจิกายน) โดยสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. ได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาแบบหักปากกาโพลแทบทุกสำนัก
ผลการนับคะแนนที่เสร็จสิ้นเกือบทุกหน่วยเลือกตั้งพบว่า พรรคเอเคพีได้คะแนนเสียงราว 49.4% กวาดที่นั่ง ส.ส.ได้ถึง 316 จากทั้งหมด 550 ที่นั่งในรัฐสภา ซึ่งมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
“วันนี้คือวันแห่งชัยชนะ” นายกรัฐมนตรีอะหมัด ดาวูโตกูล แห่งตุรกี กล่าวต่อบรรดาผู้สนับสนุนซึ่งส่งเสียงเชียร์ด้วยความดีอกดีใจ พร้อมทั้งวิงวอนให้ทุกฝ่ายสมัครสมานสามัคคีกันในยามที่พวกเคิร์ดและ ISIL ก่อเหตุโจมตีหนักข้อขึ้น ตลอดจนร่วมกันฝ่าฟันปัญหาเศรษฐกิจ และกระแสวิจารณ์เรื่องการใช้อำนาจแบบเผด็จการของผู้นำ
ผลการนับคะแนนที่ออกมาสร้างความตกตะลึงไม่น้อย เพราะโพลหลายสำนักก่อนหน้านี้บ่งบอกไปในทางเดียวกันว่า พรรคเอเคพีน่าจะได้คะแนนเสียงเพียงราวๆ 40% ไม่แตกต่างจากผลเลือกตั้งเมื่อเดือนมิถุนายนมากนัก นอกจากนี้โพลยังบอกว่า AKP ำอาจสูญเสียที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีด้วย
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ชาวตุรกีส่วนใหญ่ตัดสินใจไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครจากพรรคชาตินิยมและพรรคของพวกเคิร์ด
สถาบันคลังความคิดบรุกกิงส์เตือนว่า ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะ “ตุรกีก็กำลังเผชิญความสุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้นทุกวัน” พร้อมชี้ว่า วิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับชาวเคิร์ด ปัญหาเศรษฐกิจ และผลกระทบจากสงครามกลางเมืองในประเทศเพื่อนบ้านอย่างซีเรีย คือปัญหาใหญ่ที่สุดที่จะต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
ความแตกแยกทางเชื้อชาติและศาสนาที่รุนแรงขึ้นส่งผลให้ภูมิทัศน์การเมืองของตุรกีเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีนี้ ขณะที่การโจมตีของกลุ่ม ISIL ก็ยิ่งทำให้กรุงอังการาถูกดึงเข้าไปพัวพันกับปัญหาซีเรียอย่างยากที่จะเลี่ยง ทั้งในด้านการรองรับผู้ลี้ภัยกว่า 2 ล้านคน และความไม่ลงรอยกับชาติพันธมิตรนาโตอื่นๆ
